กลุ่มผู้ประกาศสาวทีวีดัง
แจ้งความปอท.
เอาผิดมือทวีตโพสต์ภาพ
ข้อความลามกอนาจาร
ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
กลุ่มผู้ประกาศข่าวสาวช่องดังโร่แจ้งความปอท.เพิ่ม ให้ดำเนินคดีผู้ใช้ทวิตเตอร์โพสต์ภาพประกอบข้อความลามกอนาจาร ทำให้ เสื่อมเสียชื่อเสียง ผู้ประกาศสาวช่อง 7 ลั่นคนแบบนี้ไม่ควรจะอยู่ในสังคมต่อไป ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) กลุ่มผู้ประกาศข่าวสาว สถานีโทรทัศน์ต่างๆ ประกอบด้วย น.ส.กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา หรือ ปริม อายุ27 ปี อดีตผู้ประกาศข่าวช่อง7 เอชดี ซึ่งปัจจุบัน เป็นที่ปรึกษากฎหมายและทนายความ จี.เอ็ม.เอ็ม.แกรมมี่ น.ส.ทองเนื้อเก้า คำพิมพ์ หรือ เก้า อายุ 28ปี ผู้ประกาศข่าวพีพีทีวี น.ส.ภิญญดา ธิติกุลมาศ หรือ ออม อายุ 27 ปี ผู้ประกาศข่าวพีพีทีวี น.ส.กุลญา กระจ่างกุล หรือ ปาล์ม อายุ 26 ปี ผู้ประกาศข่าวพีพีทีวี น.ส.ตรีชฎา โชคธนาเสริมสกุล หรือ นุ่มนิ่ม อายุ 27 ปี ผู้ประกาศข่าวพีพีทีวี และน.ส.นันทรัตน์ อรรถยากร หรือ มะ อายุ 30 ปี ผู้ประกาศ สมาร์ท เอสเอ็มอี เดินทางมาพร้อมทนายความ เข้าพบพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3โฆษก บก.ปอท.นำหลักฐานการโพสต์ข้อความเพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้ใช้สื่อโซเชียล”ทวิตเตอร์”รายหนึ่งที่สร้างบัญชีผู้ใช้งานโพสต์ภาพผู้เสียหายประกอบข้อความที่มีเนื้อหาสื่อไปในทางลามกอนาจาร
โดยน.ส.ทองเนื้อเก้าเผยว่ามีเพื่อนส่งภาพการโพสต์ข้อความซึ่งมีลักษณะใช้ภาพที่ไม่มีการตัดต่อไปโพสต์คู่กับข้อความที่ส่อไปเชิงลามกอนาจารจึงได้พยายามเข้าตรวจสอบหน้าเพจผู้โพสต์แต่ถูกบล็อคชื่อไว้ และทราบว่ามีเพื่อนช่องเดียวกันที่ถูกสืบค้นข้อมูลส่วนตัวนำไปโพสต์เช่นกัน ซึ่งให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เข้าข่ายเป็นการคุกคามทางเพศ ไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ชัดเจน
ขณะที่ ปริม อดีตผู้ประกาศข่าวช่อง7 เผยว่าตนได้เปลี่ยนอาชีพ ไปเป็นทนายความ 7 เดือนแล้วแต่ ผู้ที่โพสต์ มีการติดตามนำข้อมูลปัจจุบันไปโพสต์ จากการตรวจสอบข้อมูลของผู้ก่อเหตุ พบว่ายังมีการกระทำผิดรูปแบบอื่น เช่น มีการตัดต่อภาพ ผู้ประกาศข่าว เพื่อทำให้เข้าใจผิด ยังมีการโพสต์ลิงค์ไปยังคลิปวีดีโอลามกอนาจารด้วย จึงขอให้ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้
ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่ากรณีดังกล่าว หากเป็นการนำภาพที่ไม่ได้ตัดต่อ ไปโพสต์คู่กับข้อความที่มีเนื้อหาเชิงลามกอนาจารจะเข้าข่ายเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท แต่กรณีการนำภาพตัดต่อไปโพสต์ จะเข้าข่ายเป็นความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ซึ่งอัตราโทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน3 ปี ปรับไม่เกิน200,000บาท ส่วนที่พบว่ามีการโพสต์ลิงค์ไปยังคลิปลามกอนาจาร ขอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังมีการแจ้งความของน.ส.อร์วลัญช์ นันทะปัตตแวว หรือ วีเจ.แองจี้ ผู้ประกาศข่าวสาวช่องไบรท์ทีวีที่แจ้งความเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ก็ได้ให้ฝ่ายสืบสวนเร่งตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานไว้ส่วนหนึ่งแล้วและอยู่ระหว่างการติดตามเบาะแสผู้โพสต์ข้อความเพื่อตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เวลา11.00น.น.ส.ศจี วงศ์อำไพ ผู้ประกาศข่าวสาวทีวีช่อง 7 สี เดินทางพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเจ้าของทวิตเตอร์ที่นำภาพไปเผยแพร่และมีข้อความลามกอนาจารซึ่งเป็นรายเดียวกับผู้ประกาศข่าวหญิงคนอื่นๆทยอยแจ้งความก่อนหน้านี้
โดยระบุว่า ตนมาเป็นตัวแทน เพื่อนผู้ประกาศข่าวช่อง7เอชดี.ที่จะทยอยมาอีก8-9คนกับทนายความเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์ทวิตเตอร์ภาพตนและข้อความลามกอนาจารซึ่งจากที่ได้เข้าไปอ่านพบว่าบางข้อความลามกมาก มีการเชิญชวนให้คนมาแสดงความคิดเห็นลามกกัน มีคนติดตามจำนวนมากซึ่งบัญชีดังกล่าวถึงขั้นเปิดโหวต ให้มาแสดงความคิดเห็นว่าผู้ประกาศคนไหนน่าจะโดนรุมโทรมมากที่สุด ทั้งระบุว่าจะทำต่อไปให้ครบ100คน
“เราเป็นลูกผู้หญิง แม้จะเป็นคนสาธารณะก็จริง แต่ถูกกระทำลักษณะแบบนี้มันทนไม่ได้ต้องลุกขึ้นทวงสิทธิตัวเองและดำเนินการตามกฎหมาย จะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่าง ถ้าไม่ทำอะไรเลย เขาจะย่ามใจก็จะกระทำอีก คนลักษณะนี้ไม่ควรจะอยู่ในสังคมต่อไป จึงต้องให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด” น.ส.ศจี กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี