ผู้สูงอายุที่ จ.บุรีรัมย์ แห่นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้าคิวกดเช็คยอดและถอนเงินค่าเดินทางรักษาพยาบาล 1,000 บาท ที่กรมบัญชีกลางเริ่มโอนเข้าบัญชีวันนี้เป็นวันแรกคึกคัก หลายคนดีใจเพราะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเดินทางไปหาหมอ แต่บางคนผิดหวังยังไม่มียอดเงินโอนเข้าบัญชี
21 ธ.ค.61 บรรยากาศที่ตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีผู้สูงอายุรวมถึงบรรดาบุตรหลาน ได้นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาเข้าคิวกดเช็คยอดเงินค่าเดินทางรักษาพยาบาล ที่รัฐบาลช่วยเหลือ รายละ 1,000 บาท ที่ทางกรมบัญชีกลางจะโอนเข้าบัญชีของผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป วันนี้เป็นวันแรก
โดยผู้สูงอายุที่มากดเช็คยอดในวันนี้และมีเงินเข้าบัญชีแล้วก็จะกดถอนเงินออกทันที ต่างก็ดีใจเพราะสามารถช่วยแบ่งภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาพยาบาลได้ ขณะที่ผู้สูงอายุบางคนก็ต้องผิดหวังเมื่อมากดเช็คยอดแล้วแต่ไม่มีเงินโอนเข้าบัญชี ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเพราะสาเหตุอะไร อย่างไรก็ตาม บรรยากาศภาพรวมไม่วุ่นวายเหมือนกับช่วงแรกๆ เพราะผู้ถือบัตรมีความเข้าใจมากขึ้นว่า
จ. บุรีรัมย์
นางกันหา แสงพรต อายุ 70 ปี บอกว่า หลังทราบว่าวันนี้จะมีโอนเงินค่าเดินทางรักษาพยาบาลให้ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปเป็นวันแรก ก็รีบนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมากดเช็คยอดที่ตู้ ATM ทันที แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะยังไม่มีเงินโอนเข้าบัญชี แต่ไม่ทราบว่าเพราะอะไรทั้งที่ตนเองก็มีอายุ 70 ปีตามเงื่อนไขที่กำหนด แต่ก็คาดหวังว่าเงินอาจจะทยอยเข้าบัญชีหลังจากนี้ก็ได้ จึงตั้งใจว่าวันหลังจะมากดเช็คยอดใหม่อีก
และหากมีเงินโอนเข้าก็จะนำไปเป็นค่าเดินทางไปรักษาพยาบาล เพราะปัจจุบันก็อาศัยแค่เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเงินคนจนที่รัฐบาลช่วยเหลือ ไม่มีรายได้อย่างอื่น เพราะตนอายุมากแล้วประกอบกับเจ็บป่วยร่างกายไม่แข็งแรง ทำให้ไม่สามารถทำงานหนักได้ จึงต้องหวังพึ่งเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ
จ.สุรินทร์
ไปกันที่จังหวัดสุรินทร์ แจกรอบ 2 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ถึงมือชาวบ้านเมืองช้างแล้ววันนี้
21 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม อบต.เทพรักษา ตำบลเทพรักษา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ นายเรืองยศ ลิ้มนุกูลเจริญ นายอำเภอสังขะ เปิดเผยว่า ตามที่กรมบัญชีกลางได้จัดทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ในปี 2560 ที่ผ่านมา สำหรับรอบที่ 2 นี้จะเริ่มแจกบัตรฯ ผ่านทีมไทยนิยมยั่งยืน สำหรับอำเภอสังขะ เฉพาะแค่ตำบลเทพรักษามีจำนวน 1,069 รายที่ผ่านเกณฑ์การรับลงทะเบียนรอบ 2 เมื่อผู้มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมแล้ว จะสามารถใช้สิทธิได้ 2 ประเภท ได้แก่ 1. สิทธิในกระเป๋าวงเงิน ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง วงเงินค่าโดยสารจะได้รับ 500 บาท/เดือน สำหรับสิทธิ์ที่ 2 เป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน มีวงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในร้านธงฟ้าประชารัฐ สำหรับผู้มีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อปี จะได้รับวงเงิน 300 บาท/เดือน ส่วนผู้มีรายได้เกินกว่า 3 หมื่นบาทต่อปี จะได้รับวงเงิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน สำหรับพี่น้องท่านใดที่ได้รับบัตรฯไปในวันนี้ให้ใช้จ่ายในครัวเรือนเท่าที่จำเป็น วางแผนการใช้เงินให้ดีให้คุ้มค่าเพื่อการดำรงชีวิตประจำวันที่เป็นสุข หากใครไม่ได้มารับบัตรในวันนี้สามารถไปติดต่อรับบัตรได้ ณ ที่ว่าการอำเภอสังขะ ในวันและเวลาราชการ นายอำเภอสังขะกล่าวทิ้งท้าย
ด้าน พ.จ.อ.สุวิน ห้องแซง ปลัดอำเภอสังขะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนการใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.62 เป็นต้นไป สำหรับผู้ที่ได้รับบัตรในเดือนม.ค.62 กรมบัญชีกลางจะยกยอดวงเงินสวัสดิการทุกประเภทให้ไปใช้ต่อได้อีก 1 เดือน เพื่อให้ผู้มีสิทธิมีเวลาใช้บัตรซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าประชารัฐและสวัสดิการอื่น ๆ และสามารถใช้วงเงินในบัตรได้อย่างเต็มที่ สำหรับผู้มีสิทธิที่ได้รับบัตรในรอบที่แล้วและแจ้งว่าได้ทำบัตรหาย หรือแจ้งกรณีบัตรชำรุดไว้เป็นที่เรียบร้อย กรมบัญชีกลางจะผลิตบัตรทดแทนให้กับผู้มีสิทธิกลุ่มนี้ในครั้งนี้ด้วย ซึ่งต้องไปติดต่อขอรับบัตรจากธนาคารกรุงไทยที่ท่านได้แจ้งหายหรือชำรุดไว้ ส่วนสิทธิภายในบัตรจะชดเชยให้ตั้งแต่เดือนแรกจนถึงเดือนสุดท้ายที่ไม่สามารถใช้สิทธิได้
จ.สุรินทร์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี