จากกรณีจากกรณีเจ้าอาวาสวัดดังใน จ.กาฬสินธุ์ และญาติ ของ นายธีระพล รัตน์วิชัย หรือ "น้องแชมป์" อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.มหาสารคาม ได้โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อขอความเป็นธรรม โดยอ้างว่าถูกตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม จำนวน 6 คน บุกห้องพักจับใส่กุญแจมือและรุมซ้อมจนน่วม บังคับให้รับสารภาพเป็นคนขายยาบ้า สุดท้ายค้นห้องไม่พบหลักฐาน กลับบอกทำผิดคน ทำให้สังคมโลกออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างมาก ซึ่งต่อมานายธีระพล และญาติ ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมศูนย์ดำรงธรรม จ.มหาสารคาม เพื่อเอาเรื่องถึงที่สุด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม , ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม และเจ้าหน้าที่รับเรื่อง ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (23 ธ.ค.61) ที่วัดโพธิ์ชัยหลุบใน บ้านหลุบ ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พระใบฎีกาพร้อมพงษ์ รัตน์วิชัย เจ้าสำนักสงฆ์ร่มโพธิ์ทอง อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ พี่ชายแท้ๆ ของน้องแชมป์ ที่เดินทางมาพำนักที่วัดโพธิ์ชัยหลุบใน ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.) เพื่อเจรจากับฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม ซึ่งเป็นกลุ่มที่บุกทำร้ายน้องแชมป์ในห้องพัก แต่ทางคู่กรณีได้ยกเลิกการนัดหมายดังกล่าว ได้กล่าวว่า จากความตั้งใจเดิมที่เดินทางมา ก็เพื่ออยากทราบข้อเท็จจริงและพูดคุยกับคู่กรณี ตามที่ผู้ใหญ่ของฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม ประสานมา ว่าจะตกลงกันอย่างไร
พระใบฎีกาพร้อมพงษ์ กล่าวอีกว่า เมื่อทางคู่กรณีไม่มาตามที่นัดหมาย ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายนัดแนะ ไม่เพียงแต่ตนจะเสียความรู้สึกเท่านั้น ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ญาติบ้านไกล้บ้านไกลของน้องแชมป์ ต่างอำเภอต่างจังหวัด ก็เดินทางมารอคอยทั้งวัน ก็เสียความรู้สึกไปตามๆ กัน เพราะไหนจะเสียเวลาเดินทาง เสียค่าเดินทาง บอกเลิกกิจนิมนต์ญาติโยมหลายงาน และต้องเสียความรู้สึกในการรอคอย เมื่อมาบอกเลิกการเจรจาดังกล่าว จึงเป็นการตอกย้ำพฤติกรรมและวินัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มนี้ว่าหย่อนยานมาก
ทั้งนี้ ทราบจากชาวบ้านที่เป็นญาติของเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มดังกล่าวว่า เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มนี้ ได้เดินทางมาจาก จ.มหาสารคาม เข้ามาในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ แล้ว แต่ไม่รู้สาเหตุใดไม่ยอมเข้ามาเจรจาในวัดโพธิ์ชัยหลุบใน ที่เป็นจุดนัดพบ ซึ่งอาตมาก็ไม่เข้าใจเหมือนว่ากลัวอะไร ทั้งที่ตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเป็นผู้รักษากฎหมาย
นอกจากนี้ สิ่งตนอยากจะบอกกับสังคมอีกประการหนึ่ง คือ อาจจะมีหลายคนสงสัยว่าน้องแชมป์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายได้รับบาดเจ็บ พร้อมยัดเยียดข้อหาหนักอย่างนั้น ทำไมไม่แจ้งความเอาผิด อย่างไรก็ตาม ได้ทราบเรื่องจากน้องแชมป์ และ นางบุญสวย ถิตย์ประเดิม มารดา ว่าหลังวันเกิดเหตุได้เข้าร้องทุกข์ ขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรม จ.มหาสารคาม แล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม ที่ได้รับการประสานจากศูนย์ดำรงธรรมฯ ให้มารับแจ้งความที่ศูนย์ดำรงธรรมฯ โดยลงบันทึกประจำวันแค่นั้นเอง
พระใบฎีกาพร้อมพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ จึงก็มีคำถามจากญาติพี่น้องและสังคมที่มีความสงสัยว่า ทำไมจึงไม่แจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อเหตุ และแจ้งขอความคุ้มครองกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากช่วงนี้น้องแชมป์ลาเรียนอย่างไม่มีกำหนด และอาจจะถูกข่มขู่ได้ เพราะคู่กรณีเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งประเด็นนี้ จริงๆ แล้วในฐานะที่ตนเป็นพี่ชายแท้ๆ ของน้องแชมป์ จึงเป็นทั้งพี่ชายและผู้ปกครอง และเป็นเสมือนพ่อคนที่ 2 ของน้องแชมป์ เนื่องจากบิดาเสียชีวิตตั้งแต่น้องแชมป์ยังเด็กๆ จึงอยากจะพาน้องแชมป์ไปแจ้งความด้วยตนเอง แต่ทราบว่ามีผู้ใหญ่ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอไว้ โดยจะขอเจรจากันก่อน จึงให้โอกาส กระทั่งมีการนัดหมายกันอย่างมั่นเหมาะเมื่อวานนี้ แต่ก็กลับผิดนัด เสียทั้งเวลาและเสียความรู้สึกดังกล่าว โดยจะเลื่อนไปเจรจากันที่ จ.มหาสารคาม ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะใช้สถานที่ไหนเป็นจุดนัดเจรจา ส่วนตนคงไม่ไปร่วมเจรจรา เพราะติดกิจนิมนต์สำคัญที่ จ.ชัยภูมิ อย่างไรก็ตาม หากทราบผลการเจรจาไม่เป็นที่พอใจ ก็จะเดินหน้าแจ้งความเอาผิดให้ถึงที่สุด เพื่อชดใช้พฤติกรรมสุดเถื่อน ถึงกับให้ออกราชการ เพื่อจะไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
ด้าน พระทองคำ วชิรญาโน เลขานุการเจ้าคณะตำบลหลุบ กล่าวว่า เหตุการณ์น้องแชมป์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม บุกทำร้ายถึงในห้องพัก และพยายามที่จะยัดเยียดข้อหาขายยาบ้านั้น นับเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุมาก จึงอยากจะเห็นโฉมหน้าที่แท้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มนั้นว่าเป็นตำรวจสายไหน กลุ่มไหน ชื่อ ยศใดบ้าง และอยากจะให้มีการตรวจสอบย้อนหลังด้วยว่า เคยมีพฤติการณ์อย่างนี้มาก่อนหรือไม่ จึงอยากจะถือโอกาสนี้บอกกล่าวไปถึงประชาชน หรือวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา ที่เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำเช่นนี้ ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมเป็นแนวร่วมด้วยกัน เพื่อเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรม และให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติกับประชาชนด้วยการเคารพสิทธิ ไม่รุนแรงเกินกว่าเหตุ
"สำหรับพฤติกรรมน้องแชมป์นั้น ทุกคนที่รู้จักน้องแชมป์ ไม่ว่าจะเป็นพระเณรในวัด เพื่อนนักเรียน เพื่อนในหมู่บ้าน ชาวบ้าน ยืนยันว่าไม่เคยข้องเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นเด็กดี ขยันเรียน ชอบเล่นกีฬา เวลาว่างเข้าวัด ท่องหนังสือ สวดมนต์ นั่งสมาธิกับพระเณร คอยอุปัฏฐากพระผู้ใหญ่ บางวันบางคืนก็มานอนเฝ้าหน้าห้องคอยรับใช้เจ้าอาวาส และเวลามีกิจนิมนต์ที่ไหนใกล้ไกล ก็จะมาขับรถนำส่ง พฤติกรรมเหล่านี้ การันตีคุณค่าของการเป็นผู้ประพฤติดี ย่อมไม่ไปยุ่งเกี่ยวกัวกับยาเสพติด อย่างที่ตำรวจมหาสารคามกล่าวหา" พระทองคำ กล่าวในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี