รำลึก‘14 ปีสึนามิ’
พังงา-กระบี่-ภูเก็ตจัดทำบุญ
ต่างชาติเข้าร่วมพิธี
วางดอกไม้ไว้อาลัย
อินโดเตือนยังเสี่ยง
พังงา-ภูเก็ต-กระบี่ จัดงาน “รำลึก 14 ปี สึนามิ” ทำบุญ 3 ศาสนา และวางดอกไม้ไว้อาลัยผู้เสียชีวิต บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่าย ด้านอินโดฯเตือนสภาพอากาศเลวร้าย คลื่นสูง ยังเสี่ยงเกิดสึนามิซ้ำ ให้ประชาชนอยู่ห่างชายฝั่งรอบภูเขากรากาตัว
ภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดงานรำลึกเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยคลื่นยักษ์สึนามิครบรอบ 14 ปี เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ในพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามัน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก บ้านเรือนทรัพย์สินประชาชนเสียหายอย่างหนัก
วางกุหลาบขาวอาลัยคุณพุ่ม
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่สวนอนุสรณ์สึนามิ บ้านน้ำเค็ม อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายพงษ์ศักดิ์ คารวานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมว่าที่ร้อยเอก พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า นายสายัน กิจมะโน ปภ.จังหวัดพังงา นายธงชัย หันช่อ นายก อบต.บางม่วง นายมนัสศักดิ์ ยวนแก้ว ผู้ใหญ่บ้านน้ำเค็ม ม.2 หัวหน้าส่วนราชการ เอกชน ประชาชนในพื้นที่ นักเรียน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ญาติผู้สูญเสียจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่ม (เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2547 )ได้เดินทางมาร่วมรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่ทำให้ชาวบ้านบ้านน้ำเค็ม และประชาชนในพื้นที่ ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก
ทั้งนี้ ในงานมีการประกอบพิธีทางศาสนา 3 ศาสนา คือ ศาสนาพุทธ อิสลาม และศาสนาคริสต์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิต ซึ่งมีญาติผู้เสียชีวิตได้นำรูปถ่าย พร้อมด้วยข้าวปลาอาหารมาร่วมในพิธี พร้อมอ่านสารวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมกับนำดอกไม้ไปวางยังกำแพงอนุสรณ์สถาน พร้อมกันนี้ได้ร่วมกันวางช่อกุหลาบขาว ที่หน้ารูปคุณพุ่ม เจนเซ่น พระโอรสในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พร้อมทั้งยืนไว้อาลัยแก่ผู้ล่วงลับจากเหตุการณ์สึนามิถล่ม โดยบรรยากาศการจัดงานรำลึกปีที่ 14 เหตุการณ์สึนามิถล่มเป็นไปด้วยความเรียบง่าย
ภูเก็ตจัดทำบุญรำลึกผู้เสียชีวิต
เช่นเดียวกับ องค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว จ.ภูเก็ต ร่วมกับภาครัฐ เอกชน จัดงานรำลึกสึนามิ ครบ 14 ปี ประจำปี 2561 ที่สุสานไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยนายวุฒิศักดิ์ สิงห์ฆาฬะ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาวกล่าวว่า การจัดงานรำลึกสึนามิ เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้เสียชีวิต ในพิธีทางศาสนา 3 ศาสนา พุทธ คริสต์ อิสลาม การวางพวงหรีด 45 ประเทศ ที่กำแพงรำลึกสึนามิ แสดงความไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กรณีพิบัติภัยสึนามิ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ครอบครัว และญาติผู้เสียชีวิตทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ส่งเสริมฟื้นฟูการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมทุกปี ในปีนี้ครบรอบ 14 ปีย้อนรอยเหตุการณ์สึนามิถล่ม 6 จังหวัดฝั่งอันดามัน นอกจากนี้ ในงานยังมีการจัดนิทรรศการประมวลภาพเหตุการณ์สึนามิ และหลังเหตุการณ์ ความสำคัญเกี่ยวกับคลื่นสึนามิที่ควรทราบวิธีการปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุ และประมวลภาพกิจกรรมรำลึกวางดอกไม้กำแพงรำลึกสึนามิ ณ สุสานไม้ขาว ซึ่งกำแพงแห่งนี้ถูกใช้เป็นจุดรวบรวมศพผู้เสียชีวิตรอการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและมีการสร้างกำแพงขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้จากไป
กระบี่วางพวงมาลัยอนุสรณ์ใต้น้ำ
ที่จ.กระบี่ บริเวณปติมากรรมปลาใบ ริมเขื่อนเกาะพีพี หมู่ 7 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ญาติผู้เสียชีวิต ประชาชน นักท่องเที่ยวมากกว่า 500 คน เข้าร่วมงานรำลึก สึนามิ ครบรอบ 14 ปีจำนวนมากเช่นกัน โดยองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง นำภาพถ่ายของผู้เสียชีวิต และผู้สูญหายจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มเกาะพีพีมาจัดแสดงภายในงาน โดยมีนายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในพิธีวางดอกไม้ระลึกถึงผู้เสียชีวิต ตลอดจนประชาชน นักท่องเที่ยว ร่วมวางดอกไม้ นักประดาน้ำจะนำพวงมาลัยโลหะ ไปวางที่อนุสรณ์สถานใต้น้ำบริเวณอ่าวหน้าเกาะพีพี รวมถึงมีพิธีทางศาสนา 3 ศาสนา คือ ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม อุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับ อ่านสารนายกรัฐมนตรี กล่าวไว้อาลัย การวางพวงมาลา ณ อนุสรณ์สถาน สึนามิใต้น้ำ ที่บริเวณหน้าอ่าวต้นไทย เกาะพีพี ห่างจากฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร โดยจ.กระบี่ มีผู้เสียชีวิตและสูญหายจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ กว่า 722 คน สูญหาย587 คน
อินโดยังเสี่ยงเตือนภัย
สำหรับความคืบหน้าเหตุสึนามิที่อินโดนีเซีย วันเดียวกัน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสิกส์ของอินโดนีเซีย ( บีเอ็มเคจี ) ออกแถลงการณ์ฉบับใหม่ ย้ำเตือนประชาชนให้ออกห่างจากบริเวณชายฝั่งที่เชื่อมต่อกับช่องแคบซุนดา ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะสุมาตราและทางเหนือของเกาะชวา เนื่องจากตรวจพบสภาพอากาศเลวร้ายและคลื่นสูง ในรัศมีรอบภูเขาไฟอานักค กรากาตัว ซึ่งเป็นสาขาของภูเขาไฟกรากาตัว ที่ตั้งอยู่กลางช่องแคบซุนดา
ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตขณะนี้มีมากกว่า 430 ราย และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,500 คน แต่จำนวนผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากยังมีรายงานผู้สูญหายอีกประมาณ 150 คน อีกทั้ง ประชาชนมากกว่า 16,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ ในการช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะระบบสาธารณูปโภคและโครงร้างพื้นฐานเสียหายอย่างหนัก ขณะเดียวกัน รัฐบาลอินโดนีเซ๊ยได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน 14 วัน ที่เมืองปันเดกลัง ในจังหวัดบันเติน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะชวา ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี