‘นพดล’มีชื่อโผล่เป็นพยาน‘เปรมชัย’ ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีล่า‘เสือดำ’19 มี.ค.62
ความคืบหน้ากรณีอัยการจังหวัดทองผาภูมิ สั่งฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 1 , นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 , นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 219/2561 ใน 6 ข้อหา โดยศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้นัดสืบพยานโจทก์ จำนวน 32 ปาก รวม 10 นัด เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.เป็นต้นมา จนจบปากสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา และนัดสืบพยานจำเลย จำนวน 17 ปาก รวม 6 นัด ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.เป็นนัดแรก โดย นายเปรมชัย ขึ้นสืบพยานเป็นปากแรก
ภายหลังทนายความฝ่ายจำเลยระบุว่า จะนำพยานจำเลยขึ้นสืบเพียงแค่ จำนวน 6 ปากเท่านั้น และการนัดสืบพยานฝ่ายจำเลยนัดสุดท้ายคือวันที่ 26 ธ.ค.61 คือ สืบปากนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 และนายนพดล พฤกษะวัน อดีตผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติทางทะเล และเคยทำงานให้บริษัท อิตาเลียนไทยฯ
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าวันนี้(26 ธ.ค.61) นายวิทูล แย้มพราย , นายกิจจา อาลีอิสเฮาะ , นายปิยพัชร์ สายพิณ , นายปราโมช เล้าเกตุกรรณ์ และนายวิภาช อัมพรกลิ่นแก้ว ทนายความ พร้อมด้วยนายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 และนางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 ได้เดินทางมาถึงศาลจังหวัดทองผาภูมิ
นายวิทูล กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า วันนี้สืบพยานจำเลยนัดสุดท้ายจำนวน 2 ปาก คือ สืบปากนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 และนายนพดล พฤกษะวัน พยานคนนอก
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ นายนพดลมาเป็นพยานในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทางฝ่ายนายเปรมชัยมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม นายวิทูล ไม่ได้ตอบ ได้แต่เพียงยิ้มให้สื่อมวลชน แล้วเดินไปนั่งรอเวลาศาลเปิดทำการที่ชั้นล่างของศาล
ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวสังเกตว่าไม่พบนายธานี และนายนพดล เดินทางมาด้วย จึงเข้าไปสอบถามทีมทนายความ แต่ได้รับคำตอบเพียงว่าต้องรอสอบถามนายวิทูลเท่านั้น และระหว่างนั้นนายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 พร้อมด้วยนายกฤษฎา ชูโต รองอัยการจังหวัดทองผาภูมิ และ พ.ต.ท.อำนาจ สุจริตชัย รองอัยการจังหวัดกาญจนบุรี (โจทก์) ได้เดินทางมาถึงศาลจังหวัดทองผาภูมิ ผู้สื่อข่าวจึงเข้าไปพบเพื่อขอสัมภาษณ์ โดยนายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ ได้แจ้งให้สื่อมวลชนทราบเพียงสั้นๆว่า วันนี้เป็นการสืบพยานจำเลยนัดสุดท้ายแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณี นายนพดล มาเป็นพยานฝ่ายจำเลย มีประเด็นอะไรหรือไม่ นายสมเจตน์ ตอบว่า ยังไม่ทราบ และยังไม่รู้ว่าจะสืบประเด็นใด จากนั้นทั้งหมดก็ได้ขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดีที่ 2 ที่อยู่ชั้น 2 ของศาลจังหวัดทองผาภูมิ ในทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสืบพยานทั้งฝ่ายจำเลยและฝ่ายโจทก์ วันนี้ใช้เวลาสืบพยานใช้เวลาเพียงประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อผู้สื่อข่าวทราบ จึงรีบเดินทางมาที่ศาล เพื่อรอสัมภาษณ์ แต่ปรากฏว่าทั้งฝ่ายอัยการ (โจทก์) และฝ่ายจำเลย ได้เดินทางกลับไปหมดแล้ว ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ ที่อยู่ด้านหลังศาลจังหวัดทองผาภูมิ และพบกับนายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 จึงขออนุญาตสัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีการสืบพยานจำเลยในวันนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การสืบพยานฝ่ายจำเลยในวันนี้ผลเป็นอย่างไรบ้าง นายสมเจตน์ กล่าวว่า จริงๆแล้ววันนี้เป็นการนัดสืบพยานจำเลยที่ 4 แต่ทนายความฝ่ายจำเลย ได้แถลงว่าจำเลยที่ 4 ป่วยตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทนายจำเลยจึงบอกว่าขอให้ศาลใช้ดุลยพินิจที่เขาไม่สามารถสืบพยานจำเลยที่ 4 ในวันนี้ได้ ดังนั้นศาลจึงบอกให้ยื่นคำร้องเข้ามา ดูลักษณะคล้ายกับไม่ติดใจที่จะสืบพยานจำเลยที่ 4 แล้ว ส่วนพยานจำเลยปากอื่น ทนายความบอกว่าไม่สามารถติดตามตัวได้ จึงไม่ติดใจสืบปาก ในเมื่อจำเลยที่ 4 ไม่สืบพยาน อีกทั้งไม่มีพยานอื่น คดีจึงหมดพยานฝ่ายจำเลย ดังนั้นคดีจึงเสร็จการพิจารณา
เมื่อเสร็จการพิจารณาศาลจึงได้สอบถามคู่ความว่าจะแถลงปิดคดีหรือไม่ ดังนั้นทั้งโจทก์และจำเลยจึงบอกว่าต้องการจะแถลงปิดคดี ซึ่งศาลก็ให้ระยะเวลา 1 เดือน โดยให้แถลงปิดคดีภายในวันที่ 25 ม.ค.62 แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยื่น หรือทั้ง 2 ฝ่ายไม่ยื่นแถลงปิดคดี ก็ถือว่าไม่ติดใจในการยื่นแถลงปิดคดี และวันนี้ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 19 มี.ค.2562 เวลา 09.00 น. ซึ่งในวันนี้ก็เท่ากับว่าไม่มีการสืบพยานจำเลยแต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี