“เสี่ยศุภชัย” ตกเป็นจำเลยอีกคดีหลังศาลประทับฟ้องร่วมสหกรณ์คลองจั่นฯ โกงผู้เสียหายกว่า 400 ราย มูลค่า 1 พันล้านบาท ศาลนัดตรวจหลักฐาน มี.ค. 2562
27 ธ.ค.61 ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้อง คดีหมายเลขดำ อ.1260/2561 ที่ น.ส.นวลฉวี เกตุวัฒนเวสน์ กับพวกรวม 410 คน ผู้เสียหาย ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
กรณีเมื่อระหว่างปี 2552 – 2556 จำเลยที่ 2 ในฐานะประธานคณะกรรมการ ได้โฆษณาเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปทราบว่ากิจการของจำเลยที่ 1 เป็นธนาคาร มีสถานะทางการเงินมั่นคง ทั้งที่ความจริงแล้วจำเลยที่ 1 เป็นเพียงสถาบันการเงินเพื่อชุมชนเท่านั้น ไม่มีสถานะเป็นธนาคารแต่อย่างใด
การที่จำเลยที่ 1 โฆษณาเผยแพร่ว่าตนเองมีสถานะเป็นธนาคาร มีสถานะทางการเงินที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ สามารถจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์พิเศษในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ธนาคารพาณิชย์อื่นพึงจ่ายได้ เป็นเหตุให้โจทก์และประชาชนทั่วไปหลงเชื่อนำเงินมาฝากกับจำเลยที่1 จำนวนมาก ทำให้จำเลยทั้งสองได้ไปโดยทุจริตจำนวนทั้งสิ้น 1,115,567,027.51 บาท
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความพยานหลักฐานชั้นไต่สวนมูลฟ้องของโจทก์แล้ว ฝ่ายโจทก์มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ทั้ง 410 คน และ น.ส.นวลฉวี โจทก์ที่ 1 เป็นพยานเบิกความ จำเลยที่ 1 มีฐานะเป็นนิติบุคคลประเภทสหกรณ์ออมทรัพย์ ช่วงวันเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ดำรงตำแหน่งเป็นประธาน ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทน โจทก์ทั้ง 410 คน เป็นผู้ได้รับความเสียหายจากการที่จำเลยที่ 1 ร่วมกันโฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนเข้าใจและหลงเชื่อว่าจำเลยที่ 1 เป็นสถาบันการเงินมีสถานะเป็นธนาคาร มีฐานะการเงินมั่นคงน่าเชื่อถือ มีผลกำไรค่อนข้างสูง เชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมลงทุนจะได้ผลกำไรตอบแทนอย่างดี มีการโฆษณาชวนเชื่อหลายรูปแบบ ต่อมาโจทก์และประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อนำเงินเข้าฝากและร่วมลงทุน
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นิติบุคคลสามารถดำเนินกิจการใดๆ หรือทำนิติกรรมได้ก็โดยผู้จัดการหรือผู้แทนของนิติบุคคลนั้นๆ เป็นผู้กระทำแทน นิติบุคคลอาจเป็นผู้กระทำความผิดทางอาญาได้ก็โดยการกระทำของผู้จัดการหรือผู้แทนนิติบุคคลนั้น และผู้จัดการหรือผู้แทนนิติบุคคลนั้นย่อมเป็นตัวการร่วมด้วย มูลความผิดคดีนี้พนักงานอัยการยื่นได้ฟ้องจำเลยที่ 2 กับพวกเอาไว้แล้วตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.3339/2559 เพียงแต่คดีดังกล่าวมิได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 ในฐานะนิติบุคคลเป็นจำเลยด้วย เมื่อพยานหลักฐานตามทางไต่สวนของโจทก์ในชั้นนี้ฟังได้ว่า โจทก์ทั้ง 410 คน รวมทั้งผู้เสียหายรายอื่นนำเงินเข้าฝากเอาไว้กับจำเลยที่ 1 โดยมีพนักงานของจำเลยที่ 1 เป็นผู้รับฝาก เพราะมีการโฆษณาชวนเชื่อ พยานหลักฐานในชั้นนี้มีน้ำหนักเพียงพอและฟังได้ว่าคดีโจทก์มีมูล ให้ประทับฟ้องคดีไว้พิจารณา และนัดตรวจพยานหลักฐานคดีนี้วันที่ 11 มี.ค.62 เวลา 09.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี