วันพฤหัสบดี ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
สกู๊ปพิเศษ : เคาะจีดีพีเกษตรปี’61 โต 4.6%   สศก.ระบุ ปี’62 ยังคงขยายตัวคาดกรอบทั้งปีโต2.5-3.5%

สกู๊ปพิเศษ : เคาะจีดีพีเกษตรปี’61 โต 4.6% สศก.ระบุ ปี’62 ยังคงขยายตัวคาดกรอบทั้งปีโต2.5-3.5%

วันศุกร์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.
Tag : สกู๊ปพิเศษ
  •  

ในปี 2561 ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรหลายตัวมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งคาดการณ์ในช่วงปี 2562 โดยจะเห็นได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นางสาวทัศนีย์  เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจการเกษตรปี 2561 พบว่า ขยายตัวร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบกับปี 2560 โดยสาขาพืช สาขาปศุสัตว์ สาขาบริการทางการเกษตร และสาขาป่าไม้ ขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่วนสาขาประมงหดตัวลง ซึ่งปัจจัยบวก เป็นผลจากกระทรวงเกษตรฯ มุ่งเน้นการปฏิรูปภาคเกษตร ด้วยหลักการตลาดนำการผลิตควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยได้ดำเนินนโยบายที่สำคัญต่างๆ รวมทั้งปริมาณน้ำและสภาพอากาศยังคงเอื้ออำนวยต่อการผลิตทางการเกษตรทำให้พืชส่วนใหญ่เจริญเติบโตได้ดีและมีผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ด้าน ปัจจัยลบ เกิดจากช่วงต้นฤดูเพาะปลูก หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวนาปีที่สำคัญประสบภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโต ของต้นข้าว ทำให้ผลผลิตข้าวต่อไร่ลดลง ซึ่งเมื่อพิจารณาเป็นรายสาขา พบว่า


สาขาพืชในปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับปี 2560 มีปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณน้ำใช้การได้ในอ่างเก็บน้ำหลักบริเวณ  ลุ่มน้ำเจ้าพระยา (อ่างเก็บน้ำภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยบำรุงแดน และป่าสักชลสิทธิ์) ที่เพียงพอ ประกอบกับในช่วงฤดูฝนมีปริมาณน้ำเหมาะสม นอกจากนี้ ภาครัฐ ร่วมกับภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการส่งเสริมการเพาะปลูกพืชในพื้นที่ที่เหมาะสม การจัดหาแหล่งน้ำ และการใช้พันธุ์ที่ดี ส่งผลให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูกและเพิ่มการดูแลเอาใจใส่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การผลิตพืชบางส่วนยังคงได้รับความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วมและภาวะแห้งแล้งในบางพื้นที่ แต่ในภาพรวมไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตในสาขาพืชมากนัก

ผลผลิตพืชที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวนาปรัง มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำสำคัญ และปริมาณน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติอยู่ในเกณฑ์ดี เกษตรกรสามารถเพาะปลูกข้าวได้สองรอบตามปกติ ประกอบกับราคาข้าวที่เพิ่มขึ้น เกษตรกรจึงขยายเนื้อที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นในพื้นที่นาที่เคยปล่อยว่าง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาที่เกษตรกรขายได้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จูงใจให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูกแทนพืชอื่น เช่น อ้อยโรงงาน และมันสำปะหลัง

อ้อยโรงงาน มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากนโยบายภาครัฐสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกอ้อยโรงงานทดแทนในพื้นที่เพาะปลูกข้าวที่ไม่เหมาะสมประกอบกับโรงงานน้ำตาลให้การสนับสนุนและส่งเสริมการปลูกอ้อย เกษตรกรมีการใช้ท่อนพันธุ์ดีและมีการดูแลเอาใจใส่ สับปะรดโรงงาน มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากในปี 2558 - 2559 ราคาสับปะรดอยู่ในเกณฑ์สูง ทำให้เกษตรกรมีการขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้น ประกอบกับปริมาณน้ำฝนอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้มผลผลิตสับปะรดเพิ่มขึ้น ยางพารา มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากในปี 2553 - 2555 ราคายางพาราที่เกษตรกรขายได้อยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรขยายพื้นที่ปลูกยางพาราแทนพื้นที่พืชไร่ ไม้ผล พื้นที่นา และพื้นที่โค่นต้นยางที่มีอายุมาก ประกอบกับเนื้อที่กรีดได้ส่วนใหญ่เป็นต้นยางพาราที่อยู่ในช่วงอายุที่ให้ผลผลิตสูง

ปาล์มน้ำมัน มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นปาล์มน้ำมันปลูกใหม่ในปี 2558 เริ่มให้ผลได้ในปีนี้ ประกอบกับในช่วง 1 - 2 ปี ที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำฝนและสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ทำให้ต้นปาล์มมีความสมบูรณ์และมีจำนวนทะลายเพิ่มขึ้น ลำไย มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นลำไยที่ปลูกในปี 2558 เริ่มให้ผลผลิต และเกษตรกรบำรุงดูแลรักษาต้นลำไยเป็นอย่างดี ทุเรียน มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุเรียนที่ปลูกในปี 2556 เริ่มให้ผลผลิต และสภาพอากาศเอื้ออำนวย ทำให้ทุเรียนออกดอกและติดผลดี ผลผลิตต่อไร่เพิ่มสูงขึ้น และ เงาะ มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกษตรกรดูแลรักษาดี ทำให้ต้นเงาะมีความสมบูรณ์ รวมทั้งสภาพอากาศเอื้ออำนวย

ด้านราคา สินค้าพืชที่มีราคาเฉลี่ยในช่วงเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2561 ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว มีราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการของตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยมีคำสั่งซื้อข้าวเข้ามามากขึ้น รวมทั้งมีการส่งมอบข้าวตามสัญญาซื้อขายกับต่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ขยายตัวขึ้น รวมทั้งการดำเนินมาตรการ รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา มันสำปะหลัง มีราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณผลผลิตลดลง ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะโรงงานแป้งมันและลานมัน ประกอบกับภาคเอกชนมีการกำหนดราคาส่งออกมันเส้นขั้นต่ำ ทำให้ราคามันสำปะหลังที่เกษตรกรขายได้ปรับตัวสูงขึ้น ลำไย มีราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกษตรกรปรับเปลี่ยนมาผลิตลำไยนอกฤดูกาลเพิ่มขึ้น เพื่อลดปัญหาราคาตกต่ำในช่วงฤดูกาลปกติที่มีผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดกระจุกตัว (เดือนกรกฎาคม - สิงหาคม) อีกทั้งคุณภาพผลผลิตตรงตามความต้องการของตลาด ทุเรียนและมังคุด มีราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ

สาขาปศุสัตว์ ปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับปี 2560 โดยสินค้าปศุสัตว์ที่สำคัญทุกชนิดเพิ่มขึ้น ได้แก่ ไก่เนื้อ สุกร โคเนื้อ ไข่ไก่ และน้ำนมดิบ ซึ่งเป็นผลจากการจัดการฟาร์มที่ได้มาตรฐาน มีการเฝ้าระวังและควบคุมโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยให้สัตว์เติบโตได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา

สำหรับผลผลิตไก่เนื้อ เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการขยายการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยการผลิตไก่เนื้อของไทย มีระบบการผลิตที่ปลอดภัย ทำให้มีความต้องการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งความต้องการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาเนื้อไก่ที่ยังคงต่ำกว่าเนื้อสัตว์ประเภทอื่น ผลผลิตไข่ไก่ เพิ่มขึ้นเนื่องจากเกษตรกรมีการจัดการฟาร์มที่มีประสิทธิภาพรวมทั้งการรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคไข่ไก่

ผลผลิตสุกร เพิ่มขึ้นจากความต้องการบริโภคอย่างต่อเนื่องของตลาดภายในประเทศ ประกอบกับเกษตรกรมีการบริหารจัดการฟาร์ม ที่ดี มีการป้องกันโรคระบาดในสุกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ การผลิตโคเนื้อ มีการขยายการผลิตโคมีชีวิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้มีผลผลิตโคเนื้อเพิ่มขึ้น น้ำนมดิบ มีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกษตรกรปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการผลิต มีการคัดทิ้งแม่โคที่ไม่สมบูรณ์และให้น้ำนมน้อย ส่งผลให้อัตราการให้น้ำนมต่อแม่ต่อปีเพิ่มขึ้น

ด้านราคา ในช่วงเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2561 สินค้าปศุสัตว์ส่วนใหญ่ที่มีราคาเฉลี่ยลดลงเมื่อเทียบกับปี 2560 ได้แก่ ไก่เนื้อ สุกร และโคเนื้อ เนื่องจากผลผลิตที่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น แม้จะมีความต้องการบริโภคอย่างต่อเนื่องทั้งปี แต่ผลผลิตยังคงมีมาก โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 ภาครัฐได้มีมาตรการให้ลดปริมาณการผลิตสินค้าปศุสัตว์ โดยปลดระวางแม่พันธุ์สุกร นำสุกรชำแหละเข้าห้องเย็น รวมทั้งมีมาตรการกระตุ้นการบริโภคสุกรหัน โคเนื้อ และไก่เนื้อ ส่งผลให้ราคาสินค้าปศุสัตว์ในช่วงครึ่งหลังของปีปรับตัวสูงขึ้นจากครึ่งปีแรก อย่างไรก็ตาม ราคาเฉลี่ยทั้งปียังคงต่ำกว่าปี 2560 สำหรับไข่ไก่และน้ำนมดิบ มีราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากเกษตรกรได้รับแรงจูงใจจากเกณฑ์การรับซื้อน้ำนมดิบที่ขึ้นอยู่กับคุณภาพ ส่วนราคาไข่ไก่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่

สาขาประมงในปี 2561 หดตัวร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับปี 2560 โดยกุ้งทะเลเพาะเลี้ยง มีผลผลิตออกสู่ตลาดลดลงจากการที่เกษตรกรส่วนใหญ่ชะลอการลงลูกกุ้ง ซึ่งเป็นผลจากผลผลิตกุ้งของโลกมีจำนวนเพิ่มขึ้นจนเกิดภาวะกุ้งล้นตลาด สำหรับปริมาณสัตว์น้ำที่นำขึ้นท่าเทียบเรือในภาคใต้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผลผลิตประมงน้ำจืด อาทิ ปลานิล ปลาดุก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันเป็นผลมาจากปริมาณน้ำมีเพียงพอต่อการเลี้ยง เกษตรกรสามารถขยายเนื้อ เพิ่มรอบการเลี้ยง และเพิ่มอัตราการปล่อยลูกพันธุ์

ด้านราคา ในช่วงเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2561 ราคากุ้งขาวแวนนาไม (ขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัม) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ซึ่งสอดคล้องกับราคาในตลาดโลกที่ลดลงตามภาวะอุปทานส่วนเกิน สำหรับปลานิลขนาดกลาง และปลาดุกบิ๊กอุย (ขนาด 2 – 4 ตัวต่อกิโลกรัม) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยลดลงเช่นเดียวกัน โดยเป็นการลดลงตามปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น

สาขาบริการทางการเกษตรในปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 4.0 เมื่อเทียบปี 2560 ซึ่งเป็นผลจากการจ้างบริการเตรียมดิน ไถพรวนดิน และเกี่ยวนวดข้าวเพิ่มขึ้น เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกข้าวเพิ่มขึ้น 
ในส่วนของอ้อยโรงงานมีการใช้บริการเตรียมพื้นที่เพาะปลูก  การรื้อตออ้อยเพื่อปลูกใหม่ทดแทนของเดิม และขยายพื้นที่เพาะปลูกอ้อยโรงงาน นอกจากนี้ ภาครัฐได้ส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มเพื่อใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรกลการเกษตทดแทนแรงงาน ทั้งในด้านการเตรียมดิน การเพาะปลูก และการเก็บเกี่ยวผลผลิต

สาขาป่าไม้ในปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับปี 2560 โดยผลผลิตป่าไม้สำคัญที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ไม้ยางพารา ครั่ง ถ่านไม้ และรังนกนางแอ่น ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากการตัดโค่นสวนยางพาราเก่าเพื่อปลูกทดแทนด้วยยางพาราพันธุ์ดีและพืชอื่น สำหรับผลผลิตครั่ง มีการขยายตัวจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ส่งผลให้ครั่งมีการเจริญเติบโตและฟื้นตัวได้ดีขึ้น ขณะที่ถ่านไม้ มีการขยายตัวจากการใช้ในครัวเรือน ด้านผลผลิตรังนกนางแอ่นเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเปิดตลาดรังนกของประเทศจีน ทำให้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 มีการส่งออกที่ดีขึ้น  ทั้งนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรในปี 2562 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 2.5 – 3.5 โดยทุกสาขายังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปัจจัยสนับสนุนการดำเนินนโยบายด้านการเกษตรเพื่อปฏิรูปภาคเกษตรอย่างต่อเนื่อง และสภาพอากาศโดยทั่วไปประกอบกับปริมาณน้ำที่ยังคงเอื้ออำนวยต่อการผลิตทางการเกษตร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สกู๊ปพิเศษ : ASEAN Energy Storage & Smart Energy Expo 2025  มหกรรมแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจด้านพลังงาน สกู๊ปพิเศษ : ASEAN Energy Storage & Smart Energy Expo 2025 มหกรรมแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจด้านพลังงาน
  • สกู๊ปพิเศษ : เทศบาลนครสงขลา จัดสวนดอกไม้ทางเข้า หาดสมิหลา  รับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซีย ปีใหม่ 2568 สกู๊ปพิเศษ : เทศบาลนครสงขลา จัดสวนดอกไม้ทางเข้า หาดสมิหลา รับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซีย ปีใหม่ 2568
  • สกู๊ปพิเศษ : ยกระดับครูอีสานตอนบน ศึกษาศาสตร์  มข. ผนึกเครือข่ายผลิตครู ใช้ AI เสริมพลัง สกู๊ปพิเศษ : ยกระดับครูอีสานตอนบน ศึกษาศาสตร์ มข. ผนึกเครือข่ายผลิตครู ใช้ AI เสริมพลัง
  • สกู๊ปพิเศษ : ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ โครงการฯ เขาชะงุ้ม จ.ราชบุรี เกษตร GAP และนวัตกรรมไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สกู๊ปพิเศษ : ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ โครงการฯ เขาชะงุ้ม จ.ราชบุรี เกษตร GAP และนวัตกรรมไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
  • สกู๊ปพิเศษ : เดินหน้าพัฒนา ‘โครงการพระราชดำริฝนหลวง’  ตามพระบรมราชโองการ สืบสาน รักษา ต่อยอด สกู๊ปพิเศษ : เดินหน้าพัฒนา ‘โครงการพระราชดำริฝนหลวง’ ตามพระบรมราชโองการ สืบสาน รักษา ต่อยอด
  • สกู๊ปพิเศษ : อ.ส.ค.เดินหน้ารุกพัฒนาอุตสาหกรรมโคนมไทย  ตั้งเป้า ปี’67 ปั้นเกษตรกรโคนมสู่ Smart Farmer เพิ่ม 2.3 พันราย สกู๊ปพิเศษ : อ.ส.ค.เดินหน้ารุกพัฒนาอุตสาหกรรมโคนมไทย ตั้งเป้า ปี’67 ปั้นเกษตรกรโคนมสู่ Smart Farmer เพิ่ม 2.3 พันราย
  •  

Breaking News

ชำแหละ 4 ข้อ 'ทักษิณ'โชว์วิสัยทัศน์! 'หลงยุค หลงตัวเอง ขายฝัน แก้ตัว'

'ยุน ซอกยอล'อดีตปธน.เกาหลีใต้ติดคุกอีกรอบ ศาลอนุมัติหมายจับหวั่นหลักฐานถูกทำลาย

'วัส ติงสมิตร'ชี้'หมอ-พยาบาล-จนท.ราชทัณฑ์'ไม่รอด เตรียมรับวิบากกรรม ป่วยทิพย์ชั้น 14

นักธุรกิจการเมืองทำรัฐล้มเหลว! 'สมชาย'ชี้คอร์รัปชันเชิงนโยบาย บ่อนทำลายพลังอำนาจแห่งชาติ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved