ชาวประมงมีเฮ! หลังปีใหม่'กฤษฎา'ชง'บิ๊กตู่' ซื้อเรือประมงออกนอกระบบ679ลำ แถมจ่ายเงินเยียวยาให้เจ้าของเรือ ที่รัฐช่วยแก้ความเดือดร้อนผลกระทบไอยูยูล่าช้า เตรียมกรอบวงเงินกว่า3พันล้านบาท
30 ธ.ค.61 นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังจากหารือกับนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมประมงแห่งประเทศไทย เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าสมาคมประมงฯได้มาสอบถามความคืบหน้าในการนำเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อให้มีสภาพความเหมาะสมกับทรัพยากรทางทะเล โดยนายกรัฐมนตรี ได้ให้กระทรวงเกษตรฯตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเพื่อจัดทำหลักเกณฑ์การจำแนกเรือ ที่ประกอบด้วย กรมประมง หน่วยงานด้านการศึกษา กรมบัญชีกลาง กรมเจ้าท่า ฝ่ายทหารและตำรวจ ซี่งสรุปว่ามีสองวิธีการ คือจ่ายเงินชดเชยให้ชาวประมงเจ้าของเรือประมง และเรือประมงจะเป็นของรัฐ และการอำนวยความสะดวกหากเจ้าของเรือสามารถติดต่อขายเรือให้กับต่างประเทศได้ ซึ่งทางการไทยจะออกทะเบียนรับรองเรือ ผ่านสถานทูตไทยในประเทศนั้นๆหรือประเทศปลายทาง
"นำเรือออกนอกระบบแยกสองกลุ่ม กลุ่มที่1.เรือประมง 679 ลำ ที่เคยมีการสำรวจตรวจสอบ ได้ข้อยุติแล้วจะใช้ราคาประเมินจากราคากลางเมื่อปี2558 ใช้ลักษณะเรือทำข้อมูลไว้แล้วเช่นกันจะนำมาเป็นมาตรฐานในการตีมูลค่าเรือ และอีกส่วนเห็นว่าเจ้าของเรือประมง ให้ความร่วมมือกับการจัดระเบียบประมงใหม่ และที่ผ่านมาการจ่ายชดเชยมีความล่าช้า จึงจะมีการจ่ายเยียวยาให้ชาวประมงเจ้าของเรืออีกส่วนจะเป็นอัตราเท่าไหร่ โดยเสนอนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯและ นายกรัฐมนตรี มีความชัดเจนจ่ายเงินเยียวยาและเงินชดเชยภายในเดือนมกราคมนี้ ส่วนชาวประมงอื่นๆมีความประสงค์นำเรือประมงออกนอกระบบสามารมาแจ้งได้ รวมทั้งเจ้าของเรือประมง679 ลำต้องมาแจ้งยืนยันด้วยในวันที่11 ม.ค.นี้"นายกฤษฏา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแผนบริหารจัดการประมงทะเลที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบไว้ตั้งแต่ 3 พ.ย. 2558 เสนอโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย(ไอยูยู)ว่า ที่ประชุมครม.ได้พิจารณาและเห็นชอบโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน ตามลักษณะโครงการคือการซื้อเรือประมงที่ไม่มีใบอนุญาตทำการประมง มีการแจ้งจุดจอดและจัดทำ UVI (อัตลักษณ์เรือ) จากกรมเจ้าท่า และไม่มีคดีใดๆ โดยจะจัดซื้อในราคาตามสภาพจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของราคากลางเป็นจำนวน 679 ลำ ในวงเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท แบ่งการจัดซื้อเป็นสามระยะ ระยะแรกจะเป็นการจัดซื้อเรือประมงขนาดเล็กและกลาง (น้ำหนักรวม 10-60 ตันกรอส) จำนวน 409 ลำ วงเงินประมาณ 690 ล้านบาท อีก 270 ลำที่เหลือเป็นกลุ่มเรือขนาดใหญ่จะได้ดำเนินการต่อไป ในการซื้อเรือคืนนำเรือออกนอกระบบ นอกจากเป็นการลดจำนวนเรือประมงให้เหมาะสมกับปริมาณปลาแล้ว ยังช่วยบรรเทาผลกระทบให้กับเจ้าของเรือประมงจากการแก้ไขปัญหา IUU ด้วย สำหรับเรือที่ถูกซื้อไปเป็นการซื้อเพียงโครงเรือ ส่วนเครื่องนั้น เจ้าของเรือสามารถนำไปขายกับเซียงกงได้เพราะมีราคารับซื้อสูงกว่ารัฐบาล
ตั้งแต่ปี 2558 มีเรือประมง 679ลำที่ไม่สามารถออกทำการประมงได้อีกแล้ว และไม่ต่อใบอนุญาตทำการประมงตั้งแต่ปี 2559 จึงถูกจอดล็อกอยู่กับท่า ได้รับผลกระทบจากมาตรการลดจำนวนเรือประมงตามมาตรการไอยูยูเพื่อให้เหมาะสมกับปริมาณสัตว์น้ำที่ลดลงด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี