เล็งอายัดรีสอร์ทดังเมืองกาญจน์ผิดฟอกเงิน ผงะ!ตรวจรอบ3 เจอจระเข้

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กาญจนบุรี ว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้(4 ม.ค.62) พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ฯ พ.ต.อ.พูนศักดิ์ ประเสริฐเมธ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี  นายอชิระ ณ นคร ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส.และหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ รีสอร์ทชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 1 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้คณะเจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้น เข้ามาตรวจสอบมาแล้ว 2 ครั้ง

ทั้งนี้ เมื่อคณะของ รอง ผบ.ตร.มาถึง ได้เดินไปสำรวจพื้นที่ที่เรียกว่าเกาะพญาไม้ ที่อยู่กลางแม่น้ำแควใหญ่ จากนั้นไปตรวจสอบตลิ่งของแม่น้ำที่อยู่ติดกับห้องพักของรีสอร์ทที่อยู่ด้านหลัง และไปตรวจสอบบ่อน้ำอีก 1 จุด ซึ่งพบว่าภายในบ่อดังกล่าวมีจระเข้อยู่ภายใน จำนวน 2 ตัว

ดร.กณิตา อุ่ยถาวร หรือ ดร.กุ้ง หัวหน้าหน่วยนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นหัวหน้าคณะตรวจดีเอ็นเอ จระเข้ทั้ง 2 ตัว เนื่องจากกฎกระทรวง กำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 กำหนดให้ จระเข้น้ำเค็ม จระเข้น้ำจืด เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวก สัตว์เลื้อยคลาน ลำดับที่ 34 และ 35 ตามลำดับ หากไม่มีใบอนุญาตก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าว

ด้าน พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการดำเนินการต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้เรามาตรวจสอบ เราได้ดำเนินการพร้อมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ เจ้าท่า กรมทรัพยากรธรณีเป็นต้น ซึ่งในวันนั้นได้รายละเอียดมากพอสมควร แต่ได้ให้แต่ละส่วนราชการไปตรวจสอบรายละเอียดให้ครบถ้วนในทางลึก และในวันนี้จะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.ลาดหญ้า เพื่อดำเนินการ ตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป ไม่ว่าจะเป็นส่วนของกรมเจ้าท่า กรมป่าไม้ และฝ่ายปกครอง ทั้งหมดเราได้แบ่งงานกันไปแล้ว 

เมื่อถามว่าจากข้อสรุปเบื้องต้นทั้งในเรื่องของ พ.ร.บ.ป่าไม้ , พ.ร.บ.โรงแรม , พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย ยังเข้าข่ายทั้ง 3 เรื่องอยู่หรือไม่ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า ส่วนราชการต่างๆรู้แล้วว่าเข้าข่าย จะมีการร้องทุกข์กล่าวโทษในวันนี้ ถ้าผิดก็จะแจ้งข้อกล่าวหา

เมื่อถามว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ทิ้งท้ายเอาไว้ในเรื่องของกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ เรื่องของการพิสูจน์ว่ามีสัตว์ป่าไว้ในครอบครอง ตรงนี้ได้เริ่มต้นหรือยัง พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า ตอนนี้ได้เริ่มต้นแล้ว ซึ่งกรมอุทยานฯได้เข้ามาดูแล้ว เมื่อเขาพร้อมเมื่อไรก็จะนำเอารายละเอียดทั้งหมดมาให้กับพนักงานสอบสวน

ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วต้องใช้เวลาอีกนานหรือไม่ในการพิสูจน์ว่าสิ่งผิดกฎหมายมีตามภาพถ่าย ที่ได้รับการร้องเรียน พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า คาดว่าคงจะใช้เวลาไม่นาน แต่ว่าเวลาเราไม่อยากให้บอกว่าต้องใช้เวลาเท่าไร เพราะมันเป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์ เพราะถ้าบอกไปว่าใช้เวลา 15 วัน มันก็ต้อง 15 วัน ถ้าภายใน 30 วัน ก็ต้อง 30 วัน  ซึ่งเขาจะทำการพิสูจน์ให้เร็วที่สุด และที่ผู้สื่อข่าวเคยถามว่ามีผู้อิทธิพลหรือไม่ ก็ขอยืนยันว่าไม่มี มีแต่ผู้ที่กำลังจะถูกบังคับใช้กฎหมายที่กระทำผิดอยู่ เราตรวจเจอก็ต้องโดนหมด ไม่มีใครใหญ่กว่ากฎหมายทั้งนั้น

ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จะบังคับใช้กฎหมายร่วมกันทุก พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้อง เช่น กรณีจระเข้ที่พบ 2 ตัว ก็ต้องไปดูในเรื่องของการครอบครองสัตว์ป่า ว่าเป็นจระเข้น้ำเค็มหรือน้ำจืด ซึ่งก็จะมีความผิดในส่วนอื่นเพิ่มเติม ในเรื่องของการครอบครองสัตว์ป่า และในวันนี้กรมทรัพยากรธรณี ได้เข้ามาดูในเรื่องของการเจาะพื้นดิน ว่าพื้นดิน ได้งอกมาหรือเปล่า เพื่อจะให้ไม่มีการโต้แย้ง สรุปคือวันนี้ทุกส่วนจะต้องดำเนินการจบภายในวันนี้ ในเรื่องการตรวจสถานที่เกิดเหตุ แล้วนำไปสู่การร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.ลาดหญ้า ในเรื่องของคดีไม่มีอะไรซับซ้อน ซึ่งก็ทำไปตามปกติ ขอเรียนว่าในส่วนของเจ้าของพื้นที่ เขาพร้อมให้ความร่วมมืออยู่แล้ว ในวันนี้เขาก็ปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานสอบสวน ซึ่งถ้าเชิญไปพบหรือเชิญไปแจ้งข้อกล่าวหา ก็น่าจะไม่มีปัญหา ส่วนในเรื่องของกระบวนการ ก็ทำให้ครบถ้วนในส่วนของเจ้าหน้าที่ก่อน

“หากผลการตรวจสอบแล้วสรุปว่าถ้ามีการรุกล้ำและแสวงหาผลประโยชน์ เป็นเรื่องการทำธุรกิจรุกล้ำเข้าไปในที่ของทรัพยากรแห่งชาติ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ ในฐานะรักษาการเลขาธิการ ปปง. ก็จะต้องดำเนินคดีความผิดในเรื่องของ มูลฐานการฟอกเงินในส่วนหนึ่ง ที่จะต้องยึดและอายัดทรัพย์ โดยอำนาจหน้าที่ของ  ปปง.ตามกฎหมาย” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว