นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์พายุปาบึก พัดผ่านภาคใต้ของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2562 เป็นต้นมา จนถึงวันที่ 6 ม.ค. 2562 สถานการณ์คลี่คลายลง แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ได้สั่งให้มีการเตรียมการและเตรียมความพร้อมรับมือพายุ และแผนการฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยกำชับ เกษตรจังหวัด ทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ และ 2 จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี ให้ทุกหน่วยงานเฝ้าติดตามข่าวสาร ประเมินสถานการณ์ และรายงานตรงให้ทราบทันที
นายสำราญกล่าวอีกว่า ได้กำชับทุกหน่วยตามที่รมว.เกษตรฯสั่งการ ตั้งแต่ก่อนพายุปาบึกจะเข้า และทำแผนผลิตเชื้อราไตรโคเดอร์เพื่อฟื้นฟูพืชผลทางการเกษตรหลังน้ำลด โดยให้ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการอารักขาพืช ทั้ง 9 ศูนย์ทั่วประเทศ ผลิตเชื้อไตรโคเดอร์มา เพื่อช่วยป้องกันโรคที่อาจจะเกิดหลังน้ำลดได้ โดยเบื้องต้น ได้สั่งการให้ผลิตเชื้อไตรโคเดอร์มา จำนวน 65,000 กก. เพื่อรองรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทางการเกษตร กว่า 65,000 ไร่ และสั่งให้สำนักงานเกษตรจังหวัดทุกจังหวัดหลังน้ำลดลงพื้นที่ ให้คำแนะนำ และสำรวจความเสียหาย เพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ต่อไป
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังพายุปาบึก ผ่านไป หลายพื้นที่ยังเกิดน้ำท่วมขัง ส่งผลต่อยางพาราและปาล์ม รวมทั้งพืชผักอื่น โดยในพื้นที่หลังน้ำลดระยะแรกที่ดินยังเปียกอยู่ ห้ามคนและสัตว์เลี้ยง รวมถึงเครื่องจักรกลเข้าไปเหยียบย่ำในพื้นที่แปลงปลูก ส่วนในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังอยู่ ควรหาทางระบายน้ำออกโดยเร็ว เมื่อพื้นที่เริ่มแห้งพอที่จะเข้าไปปรับสภาพดินเพื่อปลูกได้ ให้ไถพรวนและตากดินไว้ เพื่อให้ดินแห้งมากขึ้น และควรหาปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่าคลุกเคล้ากับดิน เพื่อให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การปลูกพืช รวมทั้งการใช้เชื้อไตร
โคเดอร์มาใส่ลงไปในดิน จะช่วยป้องกันโรครากเน่าโคนเน่าได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี