สมาคมฯลุยตรังชงแผนศึกษาขุดคลองแนว9A ยันไม่เกี่ยวข้องพรรคคลองไทย
10 ม.ค.62 ที่ จ.ตรัง สมาคมคลองไทยเพื่อการศึกษาและพัฒนา นำโดย พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป นายกสมาคมคลองไทยเพื่อการศึกษาและพัฒนา และเลขาธิการมูลนิธิรัฐบุรุษพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ , พล.อ.ประดิษฐ์ บุญเกิด เลขาธิการสมาคมคลองไทยเพื่อการศึกษาและพัฒนา , พล.ต.ศรชัย แก้วนพ เหรัญญิกสมาคมฯ , นายทัศชัย อินทร์วิเศษ นายกสมาคมคลองไทยฯ สาขา จ.ตรัง , กำนันระพี อินทร์วิเศษ อุปนายกฯ , กำนันประดิษฐ์ สุขเสน กรรมการสมาคมฯ , กำนันสมหมาย หมาดทิ้ง กรรการสมาคมฯ เดินทางมาพบปะผู้นำภาคราชการและเอกชน มีนายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัด(รอง ผวจ.) ตรัง , นายประชา งามรัตนกุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง , นายภราดร นุชิตศิริพัตรา นายกสมาคมชาวสวนยาง จ.ตรัง และรองนายกสภาหอการค้า จ.ตรัง , นายใจ สังขารา รองนายกสภาอุตฯ ฝ่ายคอนกรีต , นายชัยฤทธิ์ ถ้ายย้วน นายกสมาคมปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ให้การต้อนรับ
พล.อ.พงษ์เทพ กล่าวว่า ตนขอขอบคุณทางจังหวัดตรังที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมภาคประชาชนที่เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ประชาชนได้เสนอโครงการคลองไทย แนว 9 A เพื่อประโยชน์เศรษฐกิจทางมหาสมุทร โครงการศึกษาจึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยและประเทศชาติโดยรวม เป็นการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งสร้างอาชีพที่มีความเป็นสากลเพิ่มขึ้นอย่างหลากหลาย โดยทางสมาคมคลองไทยฯได้มีการศึกษาลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ประชาชน จนนำไปสู่การนำเสนอต่อ พลอ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาคลองไทยแนว 9A ขึ้นอย่างเป็นทางการ ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสภาความมันคงแห่งชาติ เข้ามาดูแลในการจัดตั้งคณะกรรมการศึกษาโครงการคลองไทย แนว9 A
พล.อ.พงษ์เทพ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีบัญชาลงมาให้หาทางและพยายามหาวิธีการที่จะลงมาพบปะกับทางพื้นที่ในจังหวัดเพื่อหาข้อมูลว่าสิ่งที่ประชาชนได้ยื่นหนังสือไปว่ามีความต้องการมากน้อยเพียงใด ก็ต้องลงมาหาข้อมูล ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรมศึกษาต่อไปหรือไม่นั้น ก็ต้องดูแลพื้นที่จากนั้นจะได้ตั้งคณะกรรมการศึกษา
“ในส่วนของสมาคมคลองไทยฯ มีความมั่นใจว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีมีบัญชามาแล้ว ก็ต้องมีการตั้งคณะกรรมการศึกษากันต่อไป เมื่อตั้งแล้วก็ต้องศึกษาส่วนจะมีการผลออกมาอย่างไร ขึ้นอยู่กับผลการศึกษาในเชิงลึกว่าถ้าดีก็เดินต่อ ถ้าไม่ดีก็เก็บทิ้งไว้ให้อยู่ไปอีกเป็นร้อยปี สำหรับสมาคมฯเองก็มีส่วนร่วมในการให้การสนับสนุนในการให้ความรู้กับภาคประชาชน ส่วนการขับเคลื่อนเป็นเรื่องของประชาชนเอง ทางสมาคมฯไม่ได้ไปชี้นำหรือแนะว่าต้องทำอย่างโน้นทำอย่างนี้ เป็นเรื่องความต้องการของประชาชนเอง” พล.อ.พงษ์เทพ กล่าว
พล.อ.พงษ์เทพ กล่าวอีกว่า ทางภาคใต้เองไม่เคยมีโครงการใหญ่ๆ โดยเฉพาะโครงการที่ดีและใหญ่ที่เกิดจากภาคประชาชนก็ไม่เคยมีมาก่อน ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของชาติไทยว่า ประชาชนคิดโครงการที่ดี ซึ่งมีมาแล้วแต่ถูกเก็บทับไป มันจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากกับประเทศชาติ หากโครงการนี้ในทัศนะของตนถ้าเกิดขึ้นได้คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี เป็นบุญของประชาชน แต่ทั้งนีทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับผลการศึกษาในเชิงลึก
เมื่อถามว่ามีประเด็นเสียงสะท้อนว่า การเลือกตั้งที่จะถึงนี้มีการจัดตั้งพรรคคลองไทย จะมาเกี่ยวพันกับทางสมาคมฯด้วยหรือไม่นั้น พล.อ.พงษ์เทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องของทางพรรคการเมือง ทางสมาคมฯไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เพราะว่าเป็นเรื่องของสิทธิของประชาชนคนไทย อย่างที่ตนเรียนให้ทราบว่า เรามีประเทศไทย แต่มีพรรคการเมืองชื่อพรรคชาติไทยก็ไม่เห็นมีใครไปว่า ถือว่าเป็นสิทธิและคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีถ้าทางพรรคการเมืองมองเห็นถึงผลประโยชน์ของชาติ
“ส่วนผู้ที่สนับสนุนเห็นด้วยกับการให้มีการขุดคลองไทย จะไปสนับสนุนพรรคคลองไทย หรือไม่นั้นอาจจะมีส่วนหนึ่ง แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่นโยบายของพรรคที่สำคัญที่สุดคือ ความต้องการของประชาชนสำคัญกว่านโยบายของพรรคถ้าเอาความต้องการของประชาชนไปเขียนเป็นนโยบายพรรคตนคิดว่าจะมีคุณค่ามากกว่า เป็นการสนองตอบต่อความต้องการของประชาชนโดยตรง” พล.อ.พงษ์เทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพรรคคลองไทย เปิดตัวดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างเป็นทางการไปแล้ว มี นายสายัณห์ อินทรภักดิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นหัวหน้าพรรค พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตรังครบ 3 เขต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี