จากกรณีที่ชาวบ้านหนองรี ต.หนองรี อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี รวมตัวที่ชุมนุมที่วัดหนองรี เพื่อขับไล่พระอธิการอำนาจ เขมงฺกโร เจ้าอาวาสวัดหนองรี เจ้าคณะตำบลหนองรี เนื่องจากมีพฤติกรรมหลายอย่างไม่เหมาะสมที่จะเป็นเจ้าอาวาส ต่อมานายแย้ม บำรุงรัฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนชาวบ้าน ร่วมประชุมกับพระครูสิริกาญจนาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอบ่อพลอย เจ้าอาวาสวัดทุ่งมะสัง และนายสมชาย แสงชัยศรียากุล นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี จนได้ข้อสรุปว่า เจ้าอาวาสจะยอมออกจากวัดไปจำวัดที่วัดทุ่งมะสัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น
วันนี้ (12 ม.ค.62) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.นิพนธ์ จันทร์ทอง ผกก.สภ.หนองรี อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านหนองรีกว่า 20 คน รวมตัวเดินทางไปที่วัดหนองรี จากนั้นนายแย้ม บำรุงรัฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เดินทางไปที่วัดเพื่อสบทบกับชาวบ้าน พ.ต.อ.นิพนธ์ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.อำนาจ ปรีชาวาท สวป.และ ร.ต.อ.เทวัญ ดีพรธนพล รอง สวป.ฯ นำกำลังตำรวจสายตรวจป้องกันปราบปรามรถยนต์ และตำรวจสายตรวจป้องกันปราบปรามประจำตำบลหนองรี ร่วมลงพื้นที่เพื่อรักษาความสงบ
โดยที่บริเวณศาลาการเปรียญวัดหนองรี พบกลุ่มชาวบ้านพร้อมผู้นำ ทั้งนายกเทศมนตรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เดินทางไปที่วัดเพื่อขับไล่พระอธิการอำนาจ เขมงฺกโร เจ้าอาวาสวัดหนองรี เจ้าคณะตำบลหนองรี ที่เดินทางมากลับมาอยู่ที่วัดดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด เนื่องจากชาวบ้านไม่พอใจอย่างหนัก
ต่อมาเวลา 15.30 น. ร.ต.อ.เทวัญ ที่ร่วมสังเกตการณ์ได้ตรวจพบว่า พระอธิการอำนาจ มีท่าทางที่ตื่นเต้นอาการดูเป็นพิรุธ จึงขอทำการตรวจค้นในย่ามของพระอธิการอำนาจ ปรากฏว่าพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนปากกา) ขนาด .22 แบบยิงได้พร้อมกัน 3 นัด จำนวน 1 กระบอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจยึด และเชิญตัวไปสอบสวนต่อที่ สภ.หนองรี นำส่งต่อ พ.ต.ต.สุดเขตต์ พิมพากุล สารวัตร (สอบสวน) เพื่อสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาครองครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายอำนวย เจริญสม อายุ 66 ปี ประธานชุมชนพ่อปู่หนองรี หมู่ 2 ต.หนองรี อ.บ่อพลอย เผยว่า ชาวบ้านมาเดินทางชุมนุมที่วัดในวันนี้อีกครั้ง เนื่องจากทางเจ้าอาวาสได้กลับมาพำนักที่วัดอีก ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ได้ตกลงกับชาวบ้านไว้ โดยยังกลับเข้ามาในพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านเกิดไม่พอใจจึงรวมตัวไปทวงถามว่ากลับเข้ามาที่วัดดังกล่าวทำไม จากนั้นก็เริ่มมีปากเสียงกันขึ้น และมีคนโทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาระงับเหตุ
ขณะเดียวกันก็ได้มีการตรวจค้นพระรูปดังกล่าว ผลปรากฏว่า พบอาวุธปืนขนาด.22 อยู่ที่ในย่าม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการจับกุม ทั้งนี้ ชาวบ้านไม่คาดคิดว่าท่านซึ่งเป็นพระจะมีปืนในย่าม แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ตำรวจค้นเจอปืนเสียก่อน เพราะไม่เช่นนั้นหากมีการพูดคุยกันระหว่างพระกับชาวบ้านจนเกิดการโต้เถียงกันกระทั่งบานปลาย หากท่านควบคุมอารมณ์ไม่ได้ใช้ปืนมาทำอะไรก็จะเกิดปัญหาแก่ชาวบ้านได้เช่นกัน
หลังจากนั้น พ.ต.อ.นิพนธ์ ได้ทำการสอบปากคำ พระอธิการอำนาจ เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าอาวุธปืนเป็นของตนเอง ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นปืนไม่มีทะเบียน แต่ยังไม่ยอมบอกที่มาของอาวุธปืนดังกล่าว และจากการตรวจค้นกุฏิยังพบ กระสุนปืนขนาด .22 อีกด้วย
กระทั่งเวลา 18.00 น. พ.ต.ต.สุดเขตต์ พิมพากุล สารวัตร (สอบสวน) ได้นำตัวพระอธิการอำนาจเดินทางไปที่วัดเขาวงจินดาราม เพื่อทำการสึกจากความเป็นพระและนำตัวกลับมาสอบสวนดำเนินคดีในข้อหามีอาวุธปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี