เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ชมแปลงปลูกข้าวโพดและร่วมเก็บเกี่ยวผลผลิตในแปลงนำร่องพร้อมเยี่ยมชมสหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อและพบปะกับเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ซึ่งผลการดำเนินงานพื้นที่นำร่องในจังหวัดอุตรดิตถ์ เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วประมาณ 3,800 ตัน โดยสหกรณ์จะรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ราคาข้าวโพดฝักสดระดับความชื้น 27-30% กิโลกรัมละ 7-8 บาท และส่งต่อให้สหกรณ์การเกษตรเมืองตรอน จำกัด ซึ่งเป็นแม่ข่ายในการรับซื้อผลผลิตจากทั้ง 4 สหกรณ์ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการแปรสภาพอบลดความชื้นให้อยู่ที่ 14.5% และส่งจำหน่ายให้กับบริษัท CPF และบริษัท เบทาโกร จำกัด ซึ่งขณะนี้ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 9.80 บาท เมื่อคำนวณต้นทุนการผลิตแล้วพบว่า เกษตรกรมีต้นทุนในการผลิตเฉลี่ย 3,810 บาท/ไร่ มีรายได้จากการขายข้าวโพดเฉลี่ย 8,365 บาท/ไร่ และเมื่อหักต้นทุนแล้วจะมีกำไรเฉลี่ยไร่ละ 4,555 บาท
โดยการดำเนินการรวบรวมผลผลิตของสหกรณ์นั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้สนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ วงเงิน 10.3 ล้านบาท เพื่อให้สหกรณ์กู้ยืมไปจัดหาปัจจัยการผลิตและรวบรวมผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ซึ่งหากพิจารณาจากต้นทุนและรายได้ของเกษตรกรแล้ว ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายของโครงการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์วางไว้ทั้งเรื่องปริมาณผลผลิตต่อไร่ คุณภาพของข้าวโพดและราคาที่รับซื้อจากเกษตรกร และหากได้ผลสรุปโครงการทั้งหมดแล้วเป็นไปตามนี้ทุกพื้นที่ที่ร่วมโครงการ ก็คาดว่าในอนาคตข้าวโพดจะเป็นพืชทางเลือกอีกชนิดหนึ่งที่เกษตรกรจะเพาะปลูกได้หลังเสร็จสิ้นจากฤดูทำนา และหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จก็ต้องปรบมือให้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน กรมชลประทาน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สมาคมผู้จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์และ
สหกรณ์ในพื้นที่ต่างๆ ที่ได้ประสานความร่วมมือกันเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้เกษตรกรอยู่ดีกินดีขึ้น...
จากพายุโซนร้อน “ปาบึก” ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคใต้ของประเทศไทยเมื่อช่วงวันที่ 3 – 5 มกราคม 2562 กรมส่งเสริมการเกษตรตรวจสอบพบพื้นที่ได้รับผลกระทบเบื้องต้น มีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจำนวน 11 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา ตรัง ปัตตานี ชุมพร พัทลุง กระบี่ นราธิวาส ประจวบคีรีขันธ์ และยะลา มีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 231,282 ราย พื้นที่เสียหายจำนวน 192,485 ไร่ แยกเป็น ข้าว 34,567 ไร่ พืชไร่ 3,884 ไร่ พืชสวน และพืชอื่นๆ 154,034 ไร่ โดยมีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน จำนวน 6 จังหวัด คือ นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ชุมพร สงขลา และสุราษฎร์ธานี โดยเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบและอยู่ในพื้นที่ที่มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน สามารถยื่นแบบความจำนงขอรับการช่วยเหลือ (กษ 01) เพื่อรับเงินช่วยเหลือได้ตามชนิดพืช คือ ข้าว อัตราไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ อัตราไร่ละ 1,148 บาท พืชสวนและอื่นๆ อัตราไร่ละ 1,690 บาท นอกจากนี้ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวยังได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนจากโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2561 ในอัตราไร่ละ 1,260 บาท โดยเกษตรกรที่มีความประสงค์ยื่นแบบความจำนงขอรับการช่วยเหลือต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัยพิบัติ แจ้งขอรับการช่วยเหลือครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้านได้นะครับ...
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ในยุคนายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ถือว่าได้ให้ความสำคัญกับงานสอบบัญชีสหกรณ์เป็นอย่างมาก พร้อมทั้งยกระดับเสริมศักยภาพให้กับผู้สอบบัญชีมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเล็งเห็นว่าผู้สอบบัญชีสหกรณ์จะเป็นบุคลากรสำคัญที่มีบทบาทและมีส่วนช่วยในการหาทางแก้ไขและหาทางป้องกันปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ได้ ซึ่งจะเป็นวิธีที่สามารถสกัดกั้นการทุจริตในสหกรณ์ได้เป็นอย่างดีอีกทางหนึ่ง กรมตรวจบัญชีสหกรณ์จึงจัดตั้งหน่วยงานใหม่คือ กองกำกับการสอบบัญชีสหกรณ์ เพื่อให้เป็นหน่วยงานที่จะรองรับปัญหาของระบบสหกรณ์และส่วนที่เกี่ยวข้องให้กว้างขวางและมีความชัดเจน โดยในส่วนของการดำเนินงานของกองกำกับการสอบบัญชีสหกรณ์นั้น อธิบดีโอภาส บอกว่า จะทำให้เกิดความชัดเจนในการเป็นผู้ควบคุมดูแลภายใต้มาตรฐานการสอบบัญชี มาตรฐานการบัญชี ตลอดจนระเบียบข้อบังคับต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความถูกต้องเรียบร้อยและเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน
ขุนเกษตรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี