นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ผลิตน้ำเชื้อพ่อโคพันธุ์ โครงการหลวงอินทนนท์ ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ว่า กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์ได้ริเริ่มพัฒนาปรับปรุงพันธุ์โคนม โคเนื้อโดยใช้เทคโนโลยีผสมเทียมตั้งแต่ปี 2499 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งกรมปศุสัตว์นำเข้าพ่อโคพันธุ์จากต่างประเทศมาใช้ผลิตน้ำเชื้อแช่แข็ง เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน สามารถปรับปรุงโคนม โคเนื้อของเกษตรกร และเพิ่มมูลค่าให้ปศุสัตว์ของประเทศไทยได้อย่างทั่วถึง กรมปศุสัตว์จึงดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์ผลิตน้ำเชื้อพ่อโคพันธุ์ขึ้น เพื่อวิจัยและพัฒนาการเลี้ยงสัตว์พ่อพันธุ์โคเนื้อโคนมพันธุ์ดีเยี่ยมที่ผ่านการทดสอบจากต่างประเทศโดยเฉพาะโคสายพันธุ์ยุโรปซึ่งมีศักยภาพสูงในการปรับปรุงพันธุ์ปศุสัตว์ของประเทศไทย รวมทั้งวิจัยและพัฒนาการผลิตน้ำเชื้อแช่แข็งให้มีประสิทธิภาพสูงตลอดปี
นายลักษณ์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีศูนย์วิจัยและผลิตน้ำเชื้อแช่แข็งพ่อพันธุ์ 3 แห่ง ได้แก่ โครงการหลวงอินทนนท์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และลำพญากลาง โดยจะผลิตน้ำเชื้อแช่แข็งพ่อพันธุ์โค ทั้งโคเนื้อและโคนม ในส่วนโครงการหลวงอินทนนท์นั้น ส่วนใหญ่เป็นพ่อพันธุ์โคเนื้อจากต่างประเทศ และพ่อพันธุ์ที่ต้องการอากาศเย็น ซึ่งทั้ง 3 ศูนย์ฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานฟาร์มและศูนย์ผลิตน้ำเชื้อมาตรฐาน โดยมีพ่อโครวมทั้งสิ้น 111 ตัว (โคนม 73 ตัว และโคเนื้อ 38 ตัว) ศูนย์ฯ มีกำลังผลิตน้ำเชื้อแช่แข็งรวม 974,000 โดสต่อปี แบ่งเป็น 1.น้ำเชื้อโคนม 570,000 โดส และ 2.น้ำเชื้อ โคเนื้อ 404,000 โดส
ทั้งนี้ ภาพรวมการผสมเทียมโคนมในประเทศไทยนั้น มีจำนวนโคนมในประเทศ ประมาณ 560,000 ตัว อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ที่สามารถผสมได้ 400,000 ตัว ได้รับบริการผสมเทียมร้อยละ 99 และมีปริมาณการใช้น้ำเชื้อแช่แข็งของกรมปศุสัตว์ 400,000 โดสต่อปี ส่วนจำนวนโคเนื้อเพศเมีย (วัยเจริญพันธุ์) มีประมาณ1.66 ล้านตัว ได้รับบริการผสมเทียมประมาณ 600,000 ตัว และมีปริมาณใช้น้ำเชื้อแช่แข็งของกรมปศุสัตว์ 400,000 โดสต่อปี
สำหรับแนวทางส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อและโคนมเพื่อรองรับ FTA กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์ จะผลักดันเรื่องการรองรับมาตรฐานศูนย์ผลิตน้ำเชื้อเอกชน เพื่อกระตุ้นให้เอกชนผลิตน้ำเชื้อคุณภาพดีเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการบริการผสมเทียมให้ดีขึ้น และส่งเสริมการส่งออกน้ำเชื้อไปจำหน่ายต่างประเทศ รวมทั้งดำเนินการด้านกฎหมายในศูนย์ผลิตน้ำเชื้อที่ไม่ได้มาตรฐาน พร้อมเพิ่มศักยภาพห้องปฏิบัติการตรวจคุณภาพน้ำเชื้อของกรมปศุสัตว์ให้ได้รับมาตรฐานสากล (ISO17025 ภายในปี 2563) อีกทั้ง สนับสนุนงบประมาณในการเพิ่มหน่วยผสมเทียม และเพิ่มการให้บริการผสมเทียมของกรมปศุสัตว์ในพื้นที่ต่างๆให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ให้เกษตรกรเข้าถึงบริการได้เพิ่มขึ้น ตลอดจนผลักดันการจำหน่ายน้ำเชื้อของกรมปศุสัตว์ไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี