จุฬาราชมนตรี
แถลงการณ์ประณามโจรใต้
ฆ่าพระ-อิหม่าม
รุดเข้าเยี่ยมเหยื่อ
‘พศ.’เร่งเยียวยา
สำนักจุฬาราชมนตรี ออกแถลงการณ์ ประณามโจรใต้ ยิงพระ-อิหม่าม พร้อมแสดงความเสียใจ คณะ กก.อิสลามฯ รุดเยี่ยมเหยื่อ ด้าน “สุวพันธ์ุ” ถก พศ.เยียวยา หาแนวทางรักษาความปลอดภัยพระ-วัด
เมื่อวันที่ 20 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายแต่งกายคล้ายทหาร ขับรถจักรยานยนต์บุกเข้าไปที่วัดรัตนานุภาพ บ้านโคกโก หมู่ 2 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ก่อเหตุใช้อาวุธสงครามยิงใส่กุฏิ จนถูกพระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดและเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี และพระสมุห์ อรรถพร ขุนอำไพ พระลูกวัด มรณภาพ และมีพระได้รับบาดเจ็บอีก 2 รูป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ว่า ทางสำนักจุฬาราชมนตรี ได้ออกแถลงการณ์ประณามกรณีการสังหารพระสงฆ์ อิหม่าม และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สรุปว่า จากเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 18 มกราคม นับว่าเป็นการก้าวล่วงศาสนสถานอันเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องชาวพุทธอย่างรุนแรง และบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องต่างศาสนาอย่างน่าหดหู่
สำนักจุฬาราชมนตรี ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อบรรดาญาติของผู้สูญเสียทุกคน ผู้ที่เป็นนักบวชทุกรูป รวมถึงประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรงในช่วงนี้ และขอประณามการกระทำอันเหี้ยมโหดและไร้มนุษยธรรมของผู้ก่อความไม่สงบทั้งหลาย ที่พยายามบ่อนทำลายความสงบสุข และกระบวนการสันติภาพในพื้นที่
ทั้งนี้ สำนักจุฬาราชมนตรี มีข้อเรียกร้องถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1.ให้ผู้ก่อการความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม ยุติการทำร้ายและสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์และผู้นำศาสนา ได้แก่ พระสงฆ์ อิหม่าม นักพรต นักบวชของทุกศาสนาในทันที 2.ให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะหน่วยงานที่รับผิดชอบ ช่วยกันปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ป้องกันมิให้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์เกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อชีวิตเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้นำศาสนาและศาสนสถานของทุกศาสนา
3.ให้รัฐบาลและเอกชนทุกภาคส่วนเร่งสร้างความเข้าใจต่อประชาชนทุกศาสนา เพื่อให้ตระหนักถึงการรักษาสัมพันธภาพอันดีต่อกันและกันเอาไว้ เพื่อธำรงสันติสุขและความมั่นคงสืบไป ทั้งนี้ เพราะไม่มีศาสนาใดสอนให้ฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ แต่เป็นการกระทำของคนบางกลุ่มที่มุ่งสร้างความแตกแยกเพื่อผลประโยชน์เฉพาะคนเท่านั้น และ 4.ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมาย และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งฟื้นฟูกระบวนการสันติภาพ เพื่อหาทางออกจากความรุนแรงที่ยืดเยื้อมายาวนานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน และภาคประชาสังคมทุกหมู่เหล่าให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ต่อไป
เวลา 11.00น.วันเดียวกัน ที่ รพ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา เป็นผู้แทนนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี พร้อมด้วยนายสุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการอิสลามกลางแห่งประเทศไทย นายซากี พิทักษ์คุมพล รองเลขานุการจุฬาราชมนตรี และประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ พระประเวศ สุขแก้ว (หลวงพ่อแดง) และ พระธนโชติ ชุมเลิศ (พระยาน) ที่บาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายยิงวัดรัตนานุภาพ
จากนั้นคณะของนายสุรินทร์ ได้เดินทางไปยังวัดรัตนานุภาพ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพพระครูประโชติ และ พระสมุห์อรรถพร โดยนายสุรินทร์ กล่าวว่า ต้องขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชาวไทยพุทธ มุสลิม ซึ่งอยู่กันอย่างสันติมานานแล้ว เหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องศาสนา เพราะทุกศาสนาไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ และจากการกระทำครั้งนี้ ทั้งสองฝ่าย รวมทั้งประชาชนทั้งประเทศไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นคณะดังกล่าวจึงเดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวนายดอเลาะ สะไร โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดปูโปะ ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ สำนักจุฬาราชมนตรี ได้แถลงการณ์แสดงความเสียใจและขอประณามการกระทำที่รุนแรงกับพระสงฆ์ อิหม่าม และประชาชนผู้บริสุทธ์
วันเดียวกัน นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงผลการประชุมกับเจ้าหน้าที่ พศ.ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่กุฏิพระ ส่งผลทำให้พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ และเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี มรณภาพ พร้อมพระลูกวัด รวม 2 รูป และมีพระลูกวัดได้รับบาดเจ็บอีก 2 รูป โดยนายสุวพันธ์ กล่าวว่า แนวทางที่จะดำเนินการคือเรื่องการวางมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งในระยะเฉพาะหน้า และระยะยาว
นายสุวพันธ์ กล่าวต่อว่า แนวทางที่ดำเนินการ คือการดูแลเยียวยาพระสงฆ์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และการเพิ่มการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่าง พศ.และหน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งนี้ สิ่งเร่งด่วนที่ต้องทำขณะนี้ คือการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยเฉพาะหน้า คือการดูแลพระสงฆ์ , วัด ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีความปลอดภัย สามารถปฏิบัติกิจของสงฆ์ได้ตามปกติ และ การดูแลเยียวยาพระสงฆ์ ที่ได้รับบาดเจ็บ มรณภาพ โดยในส่วนของพิธีศพนั้นจะต้องจัดอย่างสมเกียรติ รวมถึงดูแลเยียวยาพระสงฆ์ที่ได้รับบาดเจ็บที่ปัจจุบันยังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ให้ได้รับสิทธิอย่างเต็มที่
นายสุวพันธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการดูแลพระสงฆ์ , วัด ให้สามารถประกอบศาสนกิจได้นั้น ทาง พศ.จะมีการหารือร่วมกับฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ บูรณาการทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก ส่วนระยะยาว พศ.ได้น้อมนำรับสั่งของสมเด็จพระสังฆราช ในการที่จะดูแลกรณีที่คณะสงฆ์ในพื้นที่ เกิดความหวาดวิตกเรื่องความปลอดภัย หรือ ขาดแคลนสิ่งของจำเป็นในการประกอบศาสนกิจภายในวัด โดยจะมีการจัดสรรงบประมาณพร้อมส่งรอง ผอ.พศ.เข้าไปดูแลการทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอใน จ.สงขลา โดยเฉพาะ เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจกรรมด้านพุทธศาสนาให้เข้มแข็ง ซึ่งทั้งหมด จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี ภายในวันที่ 21 มกราคมนี้ ทาง พ.ต.ท.พงศ์พร จะเข้าไปรายงานความคืบหน้าของการหารือครั้งนี้ต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อให้กรรมการ มส.ได้รับทราบแนวทางการทำงานของภาคราชการ และหากกรรมการ มส.มีข้อพิจารณา หรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ทาง พศ.จะรับมาดำเนินการต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี