20 ม.ค.62 พ.ต.ท.มานิตย์ สร้อยจิตร รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.ต.รังสิวัฒน์ กังศรานนท์ สารวัตรสอบวนฯ,ร.ต.อ.พุทธิพิพัฒน์ ปราบริปู พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.นางรอง ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ภควัต ธรรมดี ผู้กำกับการ สภ.นางรอง ได้นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ
และบริเวณหน้าโรงสีไปติดตามแกะรอยจับกุมตัว นายธวัชชัย อุ่นกระโทก หรือไมค์ อายุ 30 ปี และ น.ส.ศุภลักษณ์ ฝอยสำโรง อายุ 33 ปี สองสามีภรรยา ได้ที่ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา หลังได้ร่วมกันใช้รถยนต์ อีซูซุ สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน ผธ-6948 นครราชสีมา ตระเวนก่อเหตุลักขโมยข้าวเปลือกของชาวบ้านบ้านก้านเหลือง ต.ก้านเหลือง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่เจ้าของไม่อยู่บ้านได้ข้าวเปลือกหอมมะลิบรรจุกระสอบปุ๋ย 13 กระสอบ และกระสอบป่านอีก 3กระสอบ รวม 17 กระสอบ น้ำหนักรวม 680 กิโลกรัมไป แล้วนำไปขายให้กับโรงสีแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง ได้เงินไป 12,900 บาท แต่ที่น่าสะเทือนใจคือขณะก่อเหตุทั้งสองสามีภรรยาได้พาลูกสาว 2 คน อายุ 7 ขวบ และ 3ขวบนั่งรถไปด้วย โดยกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ขับรถผ่าน รวมถึงกล้องวงจรปิดของโรงสีสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจน ทั้งสองจึงจำนนด้วยหลักฐาน พร้อมเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุด้วย
จากการสอบสวนนายธวัชชัย ให้การรับสารภาพว่า ได้พาภรรยาและลูกทั้งสองคนขับรถไปลักขโมยข้าวเปลือกที่บ้านของชาวบ้านเพื่อนำไปขายจริง โดยอ้างว่าตนเองทำนาขาดทุนเพราะประสบปัญหาภัยแล้ง ผลผลิตเสียหาย ส่วนภรรยาที่เปิดร้านขายน้ำปั่นก็ขายไม่ค่อยได้เพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี จึงต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาใช้จ่าย ปัจจุบันมีหนี้สินสะสมอยู่เกือบ 100,000 บาทต้องจ่ายดอกทุกวัน แต่หาเงินมาจ่ายหนี้รายวันไม่ทัน ทั้งยังมีภาระต้องเลี้ยงดูลูกอีก 2 คน ทำให้หาทางออกไม่ได้จึงตัดสินใจพาภรรยาและลูกขับรถไปลักขโมยข้าวเปลือกไปขาย ซึ่งเงินที่ได้มาก็นำไปใช้หนี้สินส่วนหนึ่งแล้ว ก่อนจะมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้
จากนั้นนายธวัชชัย พร้อมภรรยา ก็ได้ก้มกราบนายกิตติ และนางภัทรวดี สองสามีภรรยาผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของข้าวเปลือกที่ถูกลักขโมย พร้อมบอกว่าขอยอมรับผิดและจะพยายามหาเงินไปชดใช้คืนให้ เพราะเข้าใจถึงความรู้สึกว่ากว่าจะทำนาได้ผลผลิตมันยากลำบากขนาดไหน เพราะที่ตนเองก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน แต่ที่ทำลงไปเพราะหาทางออกไม่ได้
ขณะที่นายกิตติ และนางภัทรวดี สองสามีภรรยา ผู้เสียหาย ก็บอกว่า หลังจากที่ข้าวเปลือกหายก็เสียใจมากจนนอนไม่หลับ เพราะปีนี้ประสบปัญหาภัยแล้งได้ผลผลิตน้อยมาก ซึ่งข้าวเปลือกจำนวนดังกล่าวตนก็เก็บไว้กินในครัวเรือนและไว้ทำพันธุ์ในปีหน้าด้วย แต่พอทราบว่าตำรวจจับกุมคนขโมยได้แล้วจึงก็รีบเดินทางมาดู เมื่อมาเห็นก็ใจอ่อนอดสงสารเด็กตาดำๆไม่ได้ และเมื่อทั้งสองมากราบขอโทษแสดงถึงความสำนึกผิดก็ยอมให้อภัย สำหรับข้าวที่ถูกขโมยไปก็แล้วแต่ว่าเขาจะหาเงินมาชดใช้คืนได้หรือไม่ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่อยากจะฝากว่าไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนก็ไม่ควรจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น น่าจะหาทางออกหรือแก้ไขปัญหาด้วยวิธีอื่น หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ควบคุมตัวทั้งสองส่งให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี