"เมียเจ้าสัวเปรมชัย"ไฟเขียวมหิดลตัดชิ้นส่วนงาช้าง4กิ่ง ตรวจพิสูจน์อายุ-ช้างไทยหรือไม่ หลังมหิดลมีหนังสือสอบถามมา ส่วนคดีเริ่มสืบพยานโจทก์นัดแรก8ส.ค.นี้
21 ม.ค.62 ที่ห้องพิจารณา 912 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมคู่ความเพื่อแจ้งการขอส่งตรวจงาช้าง คดีหมายเลขดำ อ.1143/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางคณิตดา กรรณสูตร อายุ 65 ปี ภรรยาของนายเปรมชัย , นายเปรมชัย กรรณสูตร อายุ 65 ปี ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และ น.ส.วันดี สมภูมิ อายุ 72 ปี คนใกล้ชิดภรรยานายเปรมชัย เป็นจำเลยที่ 1 - 3 ในความผิดฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันนำหรือพาของที่ยังไม่ได้เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องกำกับ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรฯ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 , 47 และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 , 27 ทวิ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
โดยวันนี้ จำเลยทั้งสามซึ่งได้รับประกันตัวคนละ 300,000 บาท เดินทางมาศาล เช่นเดียวอัยการโจทก์
ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลานัด ศาลได้แจ้งนางคณิตดา จำเลยที่ 1 ในฐานะที่เป็นผู้ครอบครองงาช้าง ทราบว่า งาช้าง 4 กิ่ง (2 คู่) ของกลางในคดีนี้ ที่นางคณิตดาได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลส่งไปตรวจว่าเป็นงาช้างไทยหรือไม่ และอายุของงาช้าง ที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลนั้นซึ่งศาลอนุญาตให้ส่งตรวจ ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.61 ทาง มหาวิทยาลัยมหิดลได้มีหนังสือสอบถามมายังศาลว่า จะขอตัดงาช้างบางส่วนจากทั้ง 4 กิ่ง เพื่อตรวจพิสูจน์ นางคณิตดา จำเลยที่ 1 จะขัดข้องหรือไม่
โดยนางคณิตดา จำเลยที่ 1 แจ้งต่อศาลว่า ไม่ขัดข้องแต่อย่างใด แต่ขออย่าทำให้รูปร่างงาช้างของกลางนั้นเสียหาย
ศาลพิจารณาแล้ว ก็จะมีหนังสือแจ้งให้ มหาวิทยาลัยมหิดล ทราบความยินยอมดังกล่าว เพื่อดำเนินการต่อไป
ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการนัดพร้อมแล้ว นายเปรมชัย และนางคณิตดา ภรรยา กับ และ น.ส.วันดี จำเลยร่วม ก็ได้เดินทางกลับทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ
ด้าน นายกิจจา อาลีอิสเฮาะ หนึ่งในทีมทนายความ ระบุว่า กระบวนการวันนี้เป็นการสอบถามนางคณิตดาว่ายินยอมการต้องตัดชิ้นส่วนงาช้างของกลางได้บ้างหรือไม่ ซึ่งนางคณิตดาก็ไม่ขัดข้อง เพราะเราต้องการให้มีการตรวจพิสูจน์ความจริง โดยกระบวนการจะดำเนินไปตามขั้นตอน ขณะที่กระบวนการสืบพยานก็จะเริ่มต้นในเดือน ส.ค.นี้ ตามศาลได้กำหนดไว้แล้วหลังจากคู่ความทั้งสองฝ่ายร่วมแสดงพยานที่จะนำสืบสู้คดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ ได้มีการตรวจพยานหลักฐานเมื่อวันที่ 3 ก.ย.61 ที่ผ่านมา และศาลได้กำหนดจำนวนพยานบุคคลที่แต่ละฝ่ายจะนำสืบคดีนี้แล้ว โดยให้อัยการโจทก์ นำพยานบุคคลเข้าสืบ 8 ปาก ใช้เวลา 2 นัด ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น.และให้จำเลยทั้งสามนำพยานบุคคลเข้าสืบตามที่แถลงรวม 9 ปาก ใช้เวลา 2 นัด วันที่ 13 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น.เช่นกัน
โดยคดีนี้ อัยการโจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 3 คน เมื่อวันที่ 11 เม.ย.61 ที่ผ่านมา โดยบรรยายพฤติการณ์จำเลยทั้งสาม สรุปว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ.61 เจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกัทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญาที่ 49/2561 เข้าค้นบ้านเลขที 12/3 ซ.ศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.ของนายเปรมชัย บริเวณชั้น 1 และชั้น 2 พบงาช้างป่าแอฟริกา 2 คู่ (4 กิ่ง) ซึ่งเป็นซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นของที่มีผู้บังอาจลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร และมิได้ผ่านช่องทางศุลกากร มิได้เสียภาษีศุลกากรโดยถูกต้อง ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย.58 นางคณิตดา และ น.ส.วันดี ได้ร่วมกันแจ้งต่อนักวิชาการป่าไม้ ชำนาญการพิเศษ กรมอุทยานฯ ว่า ได้ครอบครองงาช้าง (งช.1) ทั้ง 4 กิ่ง ถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 อันเป็นทรัพย์มรดกของนางคณิตดาที่ได้มาตั้งแต่ปี 2530 โดยถูกต้อง ซึ่งมี น.ส.วันดี เป็นพยานถูกต้องทุกประการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี