นายประชา เกษลี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานบึงกาฬ กรมชลประทานเปิดเผยว่า กรมชลประทานเตรียมดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอเมืองบึงกาฬ หลังคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา เพื่อลดความเสียหายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งบริเวณศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬ เรือนจำจังหวัดบึงกาฬ สถาบันราชภัฏอุดรธานี วิทยาเขตบึงกาฬ และพื้นที่เกษตรกรรมรอบหนองกุดทิง ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งริมแม่น้ำโขงอย่างเป็นระบบ (Area Base) ตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ซึ่งประกอบด้วย จ.บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี
ทั้งนี้ จ.บึงกาฬ เป็นจังหวัดที่มีฝนตกมากที่สุดในภาคอีสานมีค่าเฉลี่ยรายปีสูงถึง 2,670 มิลลิเมตร สูงกว่าค่าเฉลี่ยปริมาณฝนรายปีของภาคอีสานอยู่ถึง 1,098 มิลลิเมตร เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และพายุจรที่ทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกัน นอกจากนี้ ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่มีหนองกุดทิง ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับนานาชาติตั้งอยู่ในตัวเมืองรับน้ำจากลุ่มน้ำห้วยกำแพง สาขาของแม่น้ำโขง จึงได้รับอิทธิพลจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงโดยตรงเกิดปัญหาอุทกภัยเป็นประจำ จากสถิติข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมจาก GISTDA พบว่าเกิดปัญหาน้ำท่วม 10 ปี จากทั้งหมด 12 ปี เช่น ในฤดูฝนปีที่ผ่านมาก็เกิดปัญหาน้ำท่วมค่อนข้างรุนแรง
สำหรับโครงการบรรเทาอุทกภัย อ.เมืองบึงกาฬ ประกอบด้วยงานสำคัญคือ 1.สร้างประตูระบายน้ำห้วยกำแพงขนาดบานกว้าง 6 เมตร 6 ช่อง พร้อมระบบระบายน้ำ กั้นระหว่างลำห้วยกำแพงที่ปากห้วยกำแพงก่อนไหลลงแม่น้ำโขงเพื่อปิดกั้นไม่ให้น้ำจากแม่น้ำโขงไหลย้อนเข้ามาจะบรรเทาปัญหาน้ำท่วมดังกล่าวได้ และยังกักน้ำไว้ในหนองกุดทิงส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ตลอดปี 2.ก่อสร้างคันกั้นน้ำรอบศูนย์ราชการป้องกันน้ำเข้าท่วมสถานที่สำคัญความยาว 3.15 กิโลเมตร พร้อมระบบระบายน้ำ 3.ปรับปรุงฝายน้ำล้นห้วยกำแพงที่มีอยู่เดิม 4.ปรับปรุงท่อลอดบริเวณหนองเบ็น ซึ่งอยู่ด้านบนของหนองกุดทิงให้เป็นประตูระบายน้ำเพิ่มประสิทธิภาพระบายน้ำ และ5.พัฒนาระบบชลประทานรอบหนองกุดทิง โดยขยายพื้นที่ ส่งน้ำของสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านท่าโพธิ์ 2 ซึ่งจะเพิ่มพื้นที่ส่งน้ำได้ 280 ไร่ พร้อมก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าใหม่อีก 5 แห่ง เพิ่มพื้นที่ส่งน้ำได้ 6,320 ไร่
“นอกจากจะช่วยบรรเทาอุทกภัยในตัวเมืองบึงกาฬแล้ว น้ำที่กักจะเป็นน้ำต้นทุนให้พื้นที่เกษตรกรรมรอบหนองกุดทิงได้ตลอดทั้งปีรวม 10,670 ไร่ ทำให้ราษฎรมีความมั่นคงด้านน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค 17 หมู่บ้านใน 3 ตำบล ทั้งนี้ โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองบึงกาฬคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2565” ผู้อำนวยการโครงการชลประทานบึงกาฬ กล่าวย้ำในตอนท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี