ตำรวจขอหมายจับ“เทพบุตร โซโล” ที่แท้หัวหน้าแก๊งยานรก“มันทุกเม็ด” แฉกบดานกองกำลังประเทศเพื่อนบ้าน สั่ง“ตม.แม่สาย”ประสานเพื่อนบ้านล่าตัว
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 22 ม.ค.62 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอส.ตร.) และรักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลการสืบสวนสอบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติด “เทพบุตรโซโล” ว่า จากการสืบสวนสอบสวนพิสูจน์ทราบแล้วว่าผู้ที่ใช้เฟชบุ๊ก ชื่อ “เทพบุตรโซโล” ที่ก่อเหตุ บงการทำร้ายร่างกาย ผู้ที่หักหลังการค้ายาเสพติดจนเสียชีวิตเหตุเกิดท้องที่ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น คือ นายปัณณวิชญ์ ประชุม อายุ 30 ปี ชาว จ.พิจิตร
โดยพบว่านายปัณณวิชญ์ มีอีกชื่อว่า “โก๋แก่” เป็นหัวหน้าขบวนการมันทุกเม็ดขบวนการค้ายาเสพติดที่ ศอปส.ตร.เคยขยายผลยึดทรัพย์ร้านยางรถยนต์ที่เปิดเพื่อฟอกเงินยาเสพติด มูลค่า กว่า 100 ล้านบาท ในพื้นที่ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ไปเมื่อวันที่ 27 ส.ค.61 โดยอยู่ระหว่างหลบหนีกับกลุ่มกองกำลังในประเทศเพื่อนบ้าน ฝั่งชายแดน อ.แม่สาย อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยในแก๊งมันทุกเม็ด นายปัณณวิชญ์ ใช้ชื่อว่า “โก๋แก่” เป็นระดับสั่งการหายาเสพติดจากฝั่งเพื่อนบ้าน แล้วปล่อยต่อโดยหาสมาชิกจากเยาวชนที่หลงเชื่อผ่านทางออนไลน์ เบื้องต้นสืบทราบมีเครือข่ายที่ขายยาให้ประมาณ 10 คน จับได้บางส่วนเหลือ 4-5 คน แต่แตกกระเจิงไปแล้ว
ทั้งนี้ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) เข้าสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหา รวม 4 คน ที่ใช้ชื่อว่า “มัจจุราช เพชรบูรณ์” หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นในหลายจังหวัด โดยที่ จ.ขอนแก่น กลุ่มผู้ต้องหาได้ทำร้ายร่างกาย นายคุรุศาสตร์ ศรีคูณหลิว หรือ “น้องเรส” จนถึงแก่ความตาย ก่อนเผยแพร่ภาพวิดีโอขณะรุมทำร้าย ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ต่อมาตำรวจจึงสืบสวนและจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ จนทราบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวกับเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มมันทุกเม็ด ที่มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดผ่านเฟซบุ๊ค โดยใช้ชื่อ “เทพบุตร โซโล” ซึ่งเจตนาการเผยแพร่คลิป เพื่อสั่งสอนและหักล้างค่ายาเสพติดที่ไม่จำหน่ายยาให้ตรงตามคำสั่ง โดยกลุ่มที่รับงานจากแก๊งมันทุกเม็ดในการทำร้ายร่างกาย กระทืบ ผู้ที่หักหลัง มีสัญลักษณ์รอยสักที่ขมับ ต้นคอ ลายสักคำว่า “มันทุกเม็ด” ไว้ด้วย
พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับนายปัณณวิชญ์ ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ร่วมใช้จ้างวานฆ่าผู้อื่น อั้งยี่ ซ่องโจร จากการตรวจสอบพบว่ามีหมายจับค้างเก่าอยู่มากกว่า 2 หมายจับในหลายท้องที่เกี่ยวกับคดียาเสพติด จากการสืบสวนทราบว่านายปัณณวิชญ์ มักจะเดินทางเข้าออกไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นประจำ โดยใช้ช่องทางธรรมชาติ อาศัยช่องว่างแนวชายแดน ติดต่อกับกลุ่มค้ายาในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งยังไม่ทราบว่ากลุ่มไหน
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลของ สตม.ไม่พบข้อมูลการเข้าออกผ่านทางด่านตรวจคนเข้าเมืองแต่อย่างใด แต่สืบทราบว่าใช้วิธีข้ามไปมาผ่านชายแดนมาเป็นเวลามากกว่า 1 ปีแล้ว บางครั้งก็สั่งการค้ายา และทำร้ายร่างกาย ตอนอยู่ฝั่งไทย บางครั้งก็ทำในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม สั่งการกำชับให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองเฝ้าระวังจากปากความเคลื่อนไหวของนายปัณณวิชญ์และพวกเป็นพิเศษ โดยเฉพาะด่านชายแดนแม่สายเชียงแสนและหนองคาย หากพบก็ต้องจับให้ได้ ในเบื้องต้นออกหมายจับนายปัณณวิชญ์ เพียงคนเดียว ส่วนพวกที่อยู่ในแก๊งมันทุกเม็ดคือ นายสุวิต นายชาติชายและนายเจริญวุฒิ สมาชิกแก๊งอีก 3 คน จะขยายฐานสมคบค้ายาเสพติดต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า กลุ่ม “เทพบุตร โซโล” มีทั้งหมด 4 คน มี นายปัณณวิชญ์ เป็นหัวหน้าขบวนการ, นายสุวิทย์ อินทศร , นายชาติชาย พิมพบุตร และ นายเจริญวุตน์ ชนะธัณย์ไชยพัฒน์ ซึ่งเข้าออกประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางธรรมชาติหลายครั้ง โดยได้สั่งกำชับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแม่สาย ให้เฝ้าระวังผู้ต้องหากลุ่มนี้ พร้อมประสานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในและตำรวจภูธรในพื้นที่ติดตามจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี