23 มค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณี มีการเผยแพร่ข่าวของสำนักข่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 มค.ที่ผ่านมา ที่เจ้าหน้าที่สามฝ่ายมีการสนธิกำลังเข้าปิดล้อมเป้าหมายเพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีความมั่นคง เป็นเหตุให้เกิดกันยิงปะทะกันขึ้นภายในเวลา 04.00น. ของวันดังกล่าว เมื่อเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ 2 ราย และมีน้องนูรูล อิบตีซาน วัย 8 ขวบ ถูกกระสูนปืนเฉียดเข้าที่แผ่นหลังแผลเปิด เจ้าหน้าที่จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล
จากเปิดเผยของคุณยาย กล่าวว่า ขณะที่หลานกำลังลุกจากที่นอนชั้นบน เพื่อมาหลบกระสุนปืนพร้อมกับตาและยาย แล้วมานอนบนตักคุณยายอยู่ในบ้านที่ชั้นล่าง พร้อมกับตาเพราะเราอยู่แค่สามคน ท่ามกลางปืนดังสนั่นหวั่นไหว และไม่รู้ทิศทางของกระสุนเพราะมองไม่เห็นอยู่แต่ในบ้าน หลังจากมีการระดมยิงไม่รู้ว่าจากด้านไหนเพื่อความปลอดภัย ถ้าตายคงตายพร้อมกัน จนกระทั่งมีหัวกระสุนปริศนาเข้ามาจากประตูครัว ทะลุเข้าเฉียดที่แผ่นหลังของหลาน เลือดไหลเป็นจำนวนมาก หลานร้องไห้ และบอกว่ายายหนูถูกยิงเจ็บมาก
จากนั้นคุณยายได้เล่าเรื่องราวของคมกระสุนปริศนาให้ทีมข่าวในระหว่างลงพื้นที่ค้นหาความจริง ว่าขณะที่น้องถูกยิงยายก็ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อญาติ ผู้นำชุมชนแต่ไม่มีใครรับสาย จากนั้นน้องด้วยความเจ็บปวด พอนึกได้จึงขอโทรศัพท์จากยายจากนั้นจึงโทรศัพท์ไปที่ 191 ทาง 191 จึงได้อาสาจะช่วยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รีบเข้ามาช่วยเหลือ จากนั้นทาง 191 โทรเข้ามาหา แล้วถามว่าได้พาน้องออกไปโรงพยาบาลได้แล้วยัง โดยโทรสอบถามมาหลายครั้ง
หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่เคาะประตู ให้เอาหลานออกมา สิ่งที่น่าอดหู่ใจมากตอนที่ยายกำลังจะนำหลานออกจากบ้าน เพราะมีการจำกัดให้ออกมาแค่หลานกับยาย คนอื่นห้ามออกมาทั้งๆที่ภายในบ้านมีแค่สามชีวิต เมื่อถูกกำหนดเงื่อนไขเช่นนั้นยายบอกว่า ยายจะยกหลานไปไม่ไหว ทางเจ้าหน้าที่กลับบอกว่าให้ลากออกมา ยายจึงถือแขนหลานลากออกมาจนถึงต้นมะม่วงหน้าบ้านประมาณ 20 เมตร จากนั้นถึงมีเจ้าหน้าที่เข้ามาอุ้มหลานขึ้นรถไปโรงพยาบาลยะหริ่ง ยายก็ไม่รู้ว่า
ยายเองก็รีบพาหลานขึ้นรถยนต์พร้อมเจ้าหน้าที่ไปส่งโรงพยาบาล โดยไม่ได้คิดถึงเรื่องใดทั้งสิ้น เพราะสงสารหลานมาก หลานบอกว่า ยายหลานไม่ไหวแล้ว เพราะเสียเลือดเยอะ หลังจากที่หมอให้การรักษาจนกระทั่งปลอดภัยแล้ว จึงรีบกลับบ้านเพราะยังมีคุณตาทิ้งอยู่ในบ้านอีกคน
พอกลับมาบ้านอีกทีคุณตาถูกเจ้าหน้าที่นำตัวไปที่ค่ายอิงคยุทธ สภาพภายในบ้านก็ถูกตรวจค้นเข้าของพังเสียหาย เสื้อที่นอนถูกไหม้สูญเสีย มีรอยไหม้พื้นห้องของระเบิดแก๊สน้ำตา หลายชุด เสื้อผ้าที่แขวนไว้ภายในบ้านถูกไฟไหม้ เงินสดที่ใช้เป็นทุนค้าขายวางไว้ในกล่องผ้า หายไปไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นห้าพันบาท แต่ไม่รู้ใครหยิบไป เครื่องโทรศัพท์ที่น้องใช้โทรติดต่อ191 น้องเขาถือก่อนขึ้นรถทำตกหาไม่เจอจนทุกวันนี้
ยายยังบอกผ่านทีมงานว่า สิ่งที่ยายอยากเรียกร้องมากที่สุดในขณะนี้คือคุณตาที่ถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวไปที่ค่ายอิงคยุทธฯ เพราะหลานสาวน้องนูรูลอิบตีซาน ได้เรียกหาตาทุกวัน ซึ่งตอนนี้หลานยังไม่รู้ว่า คุณตาถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวไป เพราะญาติพยายามปกปิดเป็นความลับ จึงอยากให้นำคุณตากลับมาหาหลานโดยเร็วที่สุด เพราะหลานเขารักคุณตาเขามาก อีกอย่างคุณตาเขามีโรคประจำตัว ลุกไปมาไหนไม่สะดวก
ส่วนสภาพจิตใจน้องในขณะนี้ยังคงน่าเป็นห่วง เพราะน้องเขาได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทุกวันนี้น้องเห็นภาพเจ้าหน้าที่บางหน่วยไม่ได้ น้องเขาจะตกใจ หวาดผวา และส่งเสียงให้ไล่ออกไป จึงอยากให้นักสังคมจิตหรือสหวิชาชีพต้องรีบเข้าไปดูแล
ขณะที่นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เดินทางไปเยี่ยมเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ณ โรงพยาบาลปัตตานี ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเจ้าหน้าที่ปะทะกับคนร้าย หมู่ 3 ต. ตะโละกะโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2562 ที่ผ่านมา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้มอบตุ๊กตาตัวใหญ่ เป็นของขวัญวันเด็กย้อนหลังและพูดคุยให้กำลังใจแก่เด็กหญิง สร้างความประทับใจให้กับเด็กหญิงเป็นอย่างมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี