วันก่อนนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปตรวจความก้าวหน้าโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนาที่บ้านเปือย หมู่ที่ 5 ตำบลโนนทัน อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นแปลงปลูกข้าวโพดของนางทองเที่ยง สุดจอมและนายสำลี ล้นทม สมาชิกสหกรณ์การเกษตรหนองเรือ จำกัด โดยในจังหวัดขอนแก่นนั้น เกษตรกรเริ่มปลูกข้าวโพดได้ 45 วันแล้ว และคาดว่าจะเก็บผลผลิตได้ปลายเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคมที่จะถึง ซึ่งจะเป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หน้าแล้งที่สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ระบุว่า มีคุณภาพดี ความชื้นต่ำเนื่องจากเมื่อข้าวโพดแก่ ยังไม่มีฝน เมล็ดเสียจึงน้อย อีกทั้ง สมาคมผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ของไทยร่วมให้ความรู้ จัดทำแปลงสาธิต เป็นพี่เลี้ยงให้กับเกษตรกรที่ร่วมโครงการทุกขั้นตอนจนกระทั่งเก็บผลผลิต จึงคาดว่า ผลผลิตต่อไร่เฉลี่ย 1,200 กิโลกรัม หากดูแลดีสามารถสูงถึง 1,500 ถึง 1,800 กิโลกรัมต่อไร่ ดังเช่นที่แปลงนำร่องในจังหวัดอุตรดิตถ์และพิษณุโลกประสบผลสำเร็จมาแล้ว เมื่อหักต้นทุนการผลิตทั้งหมดจะมีกำไร 3,000 ถึง 4,000 บาท ขณะที่ข้าวนาปรังได้กำไรเพียง 300 ถึง 400 บาทต่อไร่ การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จึงได้กำไรมากกว่า 10 เท่า
ซึ่งนายกฤษฎาบอกว่าจะใช้โครงการปลูกข้าวโพดหลังนา เป็น “กฤษฎาโมเดล” เพื่อเป็นต้นแบบการวางแผนการผลิตภาคการเกษตรของประเทศ และส่งเสริมการปลูกพืชชนิดอื่นๆ หลังฤดูทำนาในปีต่อๆ ไป เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว และพืชผัก โดยจะต้องทำเกษตรแบบแปลงใหญ่หรือสหกรณ์เพื่อให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตและมีกำลังในการต่อรองราคาขายให้ได้รับความเป็นธรรม ไม่ถูกกดราคาจากคนกลางเหมือนที่ผ่านๆ มา
สำหรับโครงการส่งเสริมการปลูกพืชหลังนาถือเป็นนโยบายสำคัญที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มุ่งหวังที่จะสร้างสมดุลของปริมาณผลผลิตข้าวให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยลดพื้นที่การปลูกข้าวนาปรัง แล้วหันมาปลูกพืชอื่นที่มีศักยภาพและสามารถบริหารจัดการด้านการตลาดได้ทดแทน ซึ่งในปีนี้นำร่องส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นต้นแบบ เนื่องจากได้ศึกษาความต้องการของตลาดพบว่า ไทยยังผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ปัจจุบันผลิตได้ปีละ 5 ล้านตัน แต่ตลาดต้องการ 8 ล้านตัน ยังขาดอยู่อีก 3 ล้านตัน ซึ่งในอนาคตเกษตรกรจะทำเกษตรกรรมใด จะต้องรวมกลุ่มกันทำและผลิตตามความต้องการของตลาดเพื่อไม่ต้องประสบภาวะราคาผลผลิตตกต่ำและมี
รายได้มั่นคงยั่งยืน...
สัปดาห์ที่ผ่านมา นายสัตวแพทย์ สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ นำทีมงานนั่งแถลงข่าว กรมปศุสัตว์ตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกรในผลิตภัณฑ์สุกรที่ตรวจยึดได้จากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต โดยได้ตรวจยึดซาลามี่และไส้กรอกจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่โดยสารเที่ยวบิน MU 573 จากเมืองเฉิงตู และผลิตภัณฑ์ที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้พบว่ามีการปนเปื้อนสารพันธุกรรมของเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกร การตรวจพบดังกล่าวเป็นผลพวงจากความเข้มงวดในการป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรของกรมปศุสัตว์ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจจะเกิดในอุตสาหกรรมสุกรของไทย มีการบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ ด่านของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด่านอาหารและยา ด่านศุลกากร รวมทั้งหน่วยงานปกครองและหน่วยงานความมั่นคง เพื่อตรวจสอบเข้มงวดนักท่องเที่ยวหรือผู้โดยสารที่เดินทางจากประเทศที่มีการระบาดของโรคนี้ รวมทั้งการป้องกันลักลอบเคลื่อนย้ายสุกรและผลิตภัณฑ์สุกรที่ท่าอากาศยานและตามแนวชายแดน แต่นายสัตวแพทย์สรวิศ ขอให้เกษตรกรและประชาชนทั่วไปอย่าได้ตระหนก และขอให้มั่นใจในการดำเนินงานที่เข้มงวดของปศุสัตว์ในการป้องกันโรคมิให้เข้ามาสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการผลิตสุกรของประเทศไทย รวมทั้งขอย้ำให้เกษตรกรยกระดับการเลี้ยงสุกรให้มีระบบการป้องกันโรคเข้าสู่ฟาร์มตามมาตรฐาน GAP และให้สังเกตอาการสุกรอย่างใกล้ชิด หากพบสุกรแสดงอาการป่วย เช่น มีไข้สูง เบื่ออาหาร ผิวหนังเป็นปื้นแดง และต่อมาเป็นสีเขียวคล้ำ พบภาวะแท้งในแม่สุกรและมีจำนวนสุกรตายผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที หรือ call center 06-3225-6888 หรือที่แอพพลิเคชั่น DLD 4.0 “แจ้งการเกิดโรคระบาด” เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เร่งดำเนินการให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
ที่ประชุมบอร์ด กยท. มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางณพรัตน์ วิชิตชลชัย ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมยาง การยางแห่งประเทศไทย ขึ้นดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย สำหรับประวัติ นางณพรัตน์ วิชิตชลชัย จบการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทสาขาพืชไร่ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมยาง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2559 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทยด้านธุรกิจและปฏิบัติการ ได้รับการยกย่องและรางวัลมากมาย อาทิ รางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้นปี 2551 เรื่องเครื่องต้นแบบผสมยางมะตอยกับยางพาราชนิดน้ำยางข้นแบบเคลื่อนที่ได้ รางวัล Wickham Awards จาก Global Rubber Conference 2016 และได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ประสานงาน (Liaison officer) ด้านอุตสาหกรรมยาง (End User) จากสภาวิจัยยางระหว่างประเทศ (IRRDB) เป็นต้น นับว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถด้านยางพาราเป็นอย่างดี
ขุนเกษตรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี