31 ม.ค.62 ที่โรงแรมอวานา พลัส ริเวอร์ไซต์ กรุงเทพฯ นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ทำความร่วมมือ กับบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ซึ่งเป็นภาคเอกชนที่ดูแลด้านธุรกิจโรงแรม มีโรงแรมในเครือทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งธุรกิจด้านอาหาร และธุรกิจด้านแฟชั่น โดยได้ทำความร่วมมือมาอย่างต่อเนื่องและให้ความสำคัญในการจัดการอาชีวศึกษา ในการร่วมผลิตและพัฒนากำลังคนด้านอาชีวศึกษา ร่วมจัดการเรียนการสอนสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท โดยการรับนักเรียน นักศึกษาระบบทวิภาคี เข้าฝึกประสบการณ์วิชาชีพ เน้นการพัฒนาหลักสูตรร่วมกัน เพื่อผลิตกำลังคนในการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลและประเทศชาติ เพราะสาขาการโรงแรม อาหาร และสาขาที่ร่วมกันพัฒนาเป็นนิวเอสเคิร์ฟของรัฐบาล ดังนั้น ทั้งการพัฒนาหลักสูตร การเสริมสร้างความรู้ให้ครู อาจารย์ การบ่มเพาะประสบการณ์ให้กับนักเรียน นักศึกษาอาชีวะฯ ตลอดจนการฝึกอบรมต่างๆมีความสำคัญ จะทำให้นักเรียน นักศึกษาที่ได้ฝึกอบรมในโครงการทวิภาคี ในสถานประกอบการของไมเนอร์กรุ๊ป ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่มีคุณภาพมาก จะทำให้ผู้เรียมีคุณภาพและสมรรถนะที่ดีมากด้วย
"สอศ.จะร่วมกับไมเนอร์กรุ๊ป และบริษัทในเครือ เน้นความร่วมมือ 4 ด้านหลัก ได้แก่ การพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอนในระบบทวิภาคีให้ดียิ่งขึ้น การกำหนดเส้นทางอาชีพ และการวัดและประเมินผล ซึ่งถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของการแสดงความมุ่งมั่นในการสร้างและพัฒนา เยาวชน นักเรียน นักศึกษาอาชีวะให้มีคุณภาพทั้งดีและเก่ง สอดคล้องกับความต้องการของนานาชาติ และจะเป็นความร่วมมือที่ยั่งยืน โดยจะให้วิทยาลัยอาชีวศึกษารัฐและเอกชนทั้งประเทศ ซึ่งมีอยู่ 913 แห่ง โดยเฉพาะวิทยาลัยที่เปิดสอนสาขาที่เกี่ยวข้องกับบ.ไมเนอร์กรุ๊ปได้มาร่วมโครงการ ซึ่งขณะนี้มี 150 วิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการแล้ว เชื่อมั่นว่าความร่วมมือในจุดนี้จะทำให้ประเทศชาติมีความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจต่อไป" เลขาธิการ กอศ.ระบุ
ด้าน นางปัทมาวลัย รัตนพล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท เดอะ ไมเนอร์ โฮเทล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือระหว่าง สอศ. กับ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้เป็นความตั้งใจของ สอศ.และ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมมือกันสร้าง ส่งเสริม พัฒนาให้นักเรียน นักศึกษาอาชีวะฯทุกคน ได้มีอนาคต อาชีพ การงานที่มั่นคงต่อไป การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2555 เริ่มจากนักเรียนเพียง 50 คน จนถึงในปี พ.ศ.2561 มีนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1,500 คน โครงการนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างสถานศึกษาอาชีวะ กรรมการสถานศึกษา และสถานประกอบการ ปรับประยุคหลักสูตร แผนวิชาการเรียนเพื่อให้ผู้เรียนเข้าสู่สถานประกอบการ มีการเตรียมผู้เรียนเข้าสถานประกอบการ สิ่งที่สถานประกอบการเพิ่มเติมให้คือ เรื่องวินัย คุณภาพ ความตั้งใจ ความเป็นมืออาชีพให้ผู้เรียน มีการวัดผล ติดตาม และขณะนี้มีนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการและจบหลักสูตร 96% และกลับไปเรียนให้จบ จากนั้นได้กลับมาทำงานประจำกับบริษัทไมเนอร์มากกว่า 20% ทางบริษัทก็ได้ปรับตำแหน่งให้ จากตำแหน่งพนักงาน ก็เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้างาน หรือผู้จัดการตามความรู้และประสบการณ์
ส่วนความร่วมมือในวันนี้ ทางบริษัทไมเนอร์ ได้นำหลักสูตรจากต่างประเทศเข้ามาจัดการเรียนการสอน และสอบ ซึ่งนอกจากผู้เรียนจะได้รับวุฒิบัตรจากสถานศึกษาแล้ว ยังได้ประกาศนียบัตรเฉพาะทางจากต่างประเทศเพื่อใช้เป็นใบเบิกทางสามารถนำไปสมัครงานและทำงานต่างประเทศได้ ซึ่งทางบริษัท ไมเนอร์ มีบริษัทอยู่ 64 แห่งทั้งในและต่างประเทศ ก็หวังให้ผู้เรียนจะมีความมั่นคง ยั่งยืนในอาชีพ
"ขณะนี้ ในหลักสูตรมีสาขาโภชนาการ การอาหาร การตลาด การจัดการ สาขาการโรงแรม สาขาค้าปลีก สาขาแฟชั่น ก็จะมีสาขาการท่องเที่ยว สาขาบาร์เทนเดอร์ เชฟ และสาขาสปาร์ ซึ่งสาขาสปาร์ของไทยมีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นที่ต้องการ ซึ่งทางไมเนอร์จะเพิ่มสาขาขึ้นมาเลื่อยๆ โดนทางไมเนอร์ฯ จะเข้าไปช่วย สอศ.ปรับหลักสูตรสอนนักเรียน และให้นักเรียนมาฝึกงานและมาทำงานกับบริษัทไมเนอร์กรุ๊ปด้วย"
ในโอกาสนี้ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้มอบเงินสนับสนุนการซ่อมแซมบ้านให้กับผู้ประสบภัยจากพายุปาบึก จำนวน 125,999 บาท ให้กับเลขาธิการ กอศ.ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี