สัปดาห์ที่ผ่านมา ฟ้าฝ่าดังเปรี้ยงแถวทุ่งบางเขน เมื่อนายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้มีคำสั่งเด้งนายกฤษณพงศ์ ศรีพงษ์พันธุ์กุล อธิบดีกรมการข้าว ให้ไปนั่งในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ทั้งที่เพิ่งเป็นอธิบดีกรมการข้าวเต็มตัวได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น ด้วยปัญหาเรื่องการบริหารภายในกรมการข้าว ที่ทำให้การแก้ปัญหาเรื่องข้าว ไม่สามารถพัฒนาได้ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ โดยเฉพาะในเรื่องการขึ้นทะเบียนพันธุ์ข้าว ตามร่างพ.ร.บ.ข้าว ที่กำลังอยู่ในพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่อาจจะนำไปสู่การมีปัญหาอย่างรุนแรงระหว่างภาคเอกชน กับชาวนาไทย เพราะจะทำให้ชาวนาไม่สามารถจำหน่ายพันธุ์ข้าวระหว่างชาวนาด้วยกันได้ ซึ่งได้ทำให้นายกฤษฎา ไม่พอใจอย่างมาก หลังจากได้รับรู้ว่าร่างพ.ร.บ.ข้าว กำลังเข้าสู่วาระสอง แม้นายกฤษณพงศ์ ได้ทำหนังสือชี้แจง แต่นายกฤษฎาบอกว่าคำชี้แจงยังฟังไม่ขึ้น อีกทั้งหากกรมการข้าว ไม่สงวนคำแปรญัตติ จะเป็นการเอื้อให้มีการผูกขาดพันธุ์ข้าวและการจำหน่ายไว้กับภาคเอกชนในอนาคต จึงเป็นที่มาการตัดสินใจปรับเปลี่ยนอธิบดีกรมการข้าวด้วยประการฉะนี้ หวยเลยมาออกที่ นายประสงค์ ประไพตระกูล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นอธิบดีคนใหม่ หลังจากอยู่ในตำแหน่งผู้ตรวจราชการฯ เพียงไม่กี่เดือนเช่นกัน สำหรับ นายประสงค์ ประไพตระกูล ถือว่าเป็นลูกหม้อของกรมส่งเสริมการเกษตร และเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ คลุกคลีกับเกษตรกรมาเป็นอย่างดี ครั้งนี้ได้รับการไว้วางใจจากนายกฤษฎา ให้มาสะสางปัญหาดังกล่าว และวางแนวทางแก้ไขในการดูแลผลประโยชน์ชาวนาไทยที่อาจจะได้รับผลกระทบจากพ.ร.บ.นี้ ต่อไป
กรมส่งเสริมสหกรณ์มีโครงการดีๆ เพื่อพี่น้องเกษตรกรในการลดต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะด้านปัจจัยการผลิต ขับเคลื่อนผ่านขบวนการสหกรณ์ โดยสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรผลิตปุ๋ยใช้เองจำหน่ายให้กับสมาชิกและเกษตรกรทั่วไปในแต่ละพื้นที่ เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร เนื่องจากปัจจุบัน เกษตรกรส่วนใหญ่ประสบกับปัญหาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น และใช้ปุ๋ยไม่เหมาะสมกับสภาพพื้นดิน ซึ่งส่งผลทำให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่ามาตรฐาน จึงสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรในระดับอำเภอผลิตปุ๋ยที่มีคุณภาพและจำหน่ายในราคาที่เป็นธรรมแก่เกษตรกร ซึ่งกรมพัฒนาที่ดินจะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลดินของแต่ละพื้นที่ เพื่อกำหนดสูตรปุ๋ยที่มีแร่ธาตุเหมาะสมกับสภาพดินให้สหกรณ์นำไปผลิต เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ บอกว่าจะร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเกษตร เร่งจัดเวทีให้ความรู้แก่เกษตรกรถึงข้อดีในการผลิตปุ๋ยใช้เองแทนปุ๋ยสำเร็จรูป และกรมวิชาการเกษตรจะออกใบอนุญาตผลิตและจำหน่ายปุ๋ยให้กับสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงการให้คำแนะนำตามหลักวิชาการการผสมปุ๋ยและมอบใบรับรองปุ๋ยที่สหกรณ์ผลิตขึ้นว่ามีคุณภาพมาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรที่จะเลือกซื้อไปใช้ โดยกระทรวงพาณิชย์จะเจรจากับผู้ประกอบการนำเข้าแม่ปุ๋ย เพื่อให้ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยได้ซื้อแม่ปุ๋ยจากบริษัทนำเข้าในราคาที่ถูกกว่าราคาตลาดและกระจายต่อให้กับสหกรณ์การเกษตรในแต่ละจังหวัดนำแม่ปุ๋ย ซึ่งเป็นปุ๋ยที่มีธาตุอาหารหลักพืช คือ N P K สูตรเข้มข้น เป็นวัตถุดิบเพื่อนำไปผสมและผลิตปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน หรือสูตรที่เกษตรกรต้องการใช้จำหน่ายให้กับเกษตรกร สำหรับเงินทุนในการผลิตปุ๋ยจำหน่ายให้เกษตรกร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จัดสรรวงเงินสินเชื่อ 1,300 ล้านบาท ให้สหกรณ์กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 2 และธ.ก.ส.รับภาระดอกเบี้ย ร้อยละ 1 ต่อปี ขณะนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เปิดรับสมัครสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการแล้ว 403 แห่ง ในพื้นที่ 66 จังหวัด และได้ประสานสหกรณ์เพื่อสำรวจปริมาณความต้องการปุ๋ยผสมใช้เองของสมาชิกและเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งสหกรณ์จะได้มีข้อมูลในการผลิตปุ๋ยได้ตรงกับความต้องการของเกษตรกร คาดว่าสหกรณ์จะเริ่มผลิตปุ๋ยและจำหน่ายได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 เป้าหมายประมาณ 100,000 ตัน ซึ่งจะจำหน่ายราคาถูกกว่าปุ๋ยสำเร็จที่ขายตามท้องตลาดตันละ 3,378 บาท คาดว่าโครงการนี้จะช่วยลดต้นทุนการผลิตไร่ละ 300 – 400 บาท และสามารถลดต้นทุนจากการใช้ปุ๋ยคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 337.8 ล้านบาท
เมื่อเร็วๆนี้ นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ปี 2562 ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรตำบลบ้านเสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยภายในงานนี้ สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ลำปาง ภายใต้การนำของ นางวิมลรัตน์ จันทร์สกาว ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 7 และนายมานะ โภคินมาศ หัวหน้าสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ลำปาง นำทีมงานร่วมจัดนิทรรศการด้านบัญชีเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับรู้ข้อมูลและสามารถใช้บัญชีเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาความยากจนและสร้างวินัยทางการเงิน รู้จักวางแผนการใช้จ่ายและการประกอบอาชีพให้สามารถดำรงชีวิตเองได้อย่างยั่งยืน...กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ยุคนี้ นับว่าเน้นนโยบายเข้าถึงเกษตรกรและขบวนการสหกรณ์อย่างทั่วถึง อธิบดีโอภาสมอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่ให้ความรู้ด้านการทำบัญชีแก่พี่น้องเกษตรกร สหกรณ์รวมถึงเยาวชนอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิตที่จะนำไปสู่ความอยู่ดีกินดีต่อไป
ขุนเกษตรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี