นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรสนองนโยบายรัฐบาล ดำเนินงานโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ร่วมกับหน่วยงาน 5 เสือภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และหน่วยงานภาคเอกชน ได้แก่ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย และสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย ส่งผลให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวรอบ 2 ไปปลูกพืชชนิดอื่นที่ตลาดต้องการ ปรับสมดุลการผลิตข้าวให้เหมาะสมตามกลไกตลาด ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นพืชใช้น้ำน้อย จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสม ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย สร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ การดำเนินการตามโครงการฯ กรมส่งเสริมการเกษตรมอบให้สำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 37 จังหวัด ติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความรู้ด้านวิชาการแก่เกษตรกรก่อนเพาะปลูก เพื่อให้การปลูกข้าวโพดตามโครงการ เป็นไปอย่างเหมาะสมตามสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ลักษณะวิถีชีวิตในแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกันตั้งแต่การเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสม การเตรียมดิน การดูแลการเก็บเกี่ยวที่ถูกวิธี ตลอดจนการหาตลาดและแหล่งรับซื้อที่เหมาะสม ใกล้กับแหล่งเพาะปลูกมากที่สุด
ด้านนายทรงพันธ์ จันทร์สว่าง เกษตรจังหวัดขอนแก่นกล่าวว่า จ.ขอนแก่น เข้าร่วมโครงการ 18 อำเภอ เกษตรกร 911 ราย รวมพื้นที่ 5,434 ไร่ สำหรับที่อ.บ้านฝาง เกษตรกรส่วนใหญ่จะปลูกข้าว อ้อย และข้าวโพดข้าวเหนียวเป็นหลัก แต่เมื่อมีโครงการนี้เข้ามา เกษตรกรบางรายประสงค์ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากมีมาตรการจูงใจที่น่าสนใจ จึงแบ่งพื้นที่ปลูกข้าวโพดฝักสดส่วนหนึ่ง เพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอให้ข้อมูลการเพาะปลูกเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพทั้ง 2 ชนิด ตั้งแต่วางแผนปลูก เช่น แปลงปลูกควรมีระยะห่างจากกันอย่างน้อย 200 เมตร ป้องกันละอองเกสรปลิวถึงกัน หรือให้ปลูกเหลื่อมระยะเวลาระหว่างกันอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ ไปจนถึงป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชโดยชีววิธี เช่น ปล่อยแตนเบียน แมลงหางหนีบ ให้ธรรมชาติดูแลกันเอง ปัจจุบันเกษตรกรหลายรายในพื้นที่ดำเนินการตามคำแนะนำ ทำให้ผลิตข้าวโพดได้ทั้ง 2 ชนิด ในพื้นที่ใกล้เคียงโดยไม่เกิดปัญหา ซึ่งเจ้าหน้าที่นักส่งเสริมการเกษตรทุกพื้นที่พร้อมให้ข้อมูล คำแนะนำ เพื่อให้เกษตรกรทำการเกษตรถูกวิธี ตามข้อกำชับของกระทรวงเกษตรฯและกรมส่งเสริมการเกษตร ทำให้เกิดผลผลิตและรายได้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืนต่อไป
นายรุ่งโรจน์ โชติกวี เกษตรกรตำบลหนองบัว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น เล่าว่า เดิมเกษตรกรปลูกข้าวในฤดูทำนา และปลูกข้าวโพดข้าวเหนียวต่อหลังเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว แต่เมื่อได้ฟังมาตรการของโครงการ จากเกษตรตำบล จึงเกิดสนใจเข้าร่วมโครงการ เพราะมีตลาดรับซื้อแน่นอน น่าจะขายได้ราคาดี และเป็นการปลูกพืชหมุนเวียน พอทำนาเสร็จจึงแบ่งพื้นที่เพื่อปลูกข้าวโพดข้าวเหนียวส่วนหนึ่ง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ส่วนหนึ่ง และปลูกปอเทืองบำรุงดินให้เป็นแปลงคั่นกลางห่างกัน 200 เมตร ระหว่างแปลงปลูกข้าวโพดทั้ง 2 ชนิด ตามคำแนะนำของเกษตรตำบล ถึงแม้ปลูกข้าวโพดทั้ง 2 ชนิดในเวลาไล่เลี่ยกันและพื้นที่ใกล้กัน แต่ไม่วิตกเรื่องนี้ พร้อมกันนี้ได้นำความรู้ด้านชีววิธี มาป้องกันแมลงในไร่ข้าวโพดด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี