8 ก.พ. 62 เวลา 12.45 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สนับสนุน บก.ป. พ.ต.ท.ปทักข์ ขวัญนา , พ.ต.ท.ภัทราวุธ อ่อนช่วย รรท.รอง ผกก.สนับสนุน บก.ป. พ.ต.ท.ภัทรพล ปัทมวงศ์ รรท.สว.กก.สนับสนุน บก.ป. พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์ สว.กก.1 บก.ป.พร้อมคณะ แถลงจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอุกฉกรรจ์ 2 ราย โดยรายแรก จับกุมนายยศพัฒน์ หรือนรงฤทธิ์ หรือปุ้ย สัมพันธ์ชัย หรือทำดี อายุ ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.410/2561 ลงวันที่ 19  มิถุนายน 2561 ข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย โดยมีอาวุธ , มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณโดยไม่มีเหตุอันควร , ยิงปืนในที่ชุมนุมชน , ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวโดยการขู่เข็ญ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 259/2558 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 ตามความผิดต่อชีวิต , ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ

รายที่ 2 จับกุม นายธีรพันธุ์ กรรณสูต ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 2625/2548 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2548 ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น , ร่วมกันมีปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในที่ชุมชนโดยไม่มีเหตุอันควร

พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า การจับกุมตัวนายยศพัฒน์ สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 02.10 น.วันที่ 23 เมษายน 2561 นายยศพัฒน์ ได้ร่วมกับพวกซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นายอาชวิน อยู่บำรุง หรือ “กาโม่” บุตรชายนายวัน อยู่บำรุง ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายภานุวัฒน์ หรืออั๋น ปุณณรัตนกุล อายุ 34 ปี นักธุรกิจทายาทเจ้าของร้านค้าทองแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี เหตุเกิดที่ร้านเดโม่ ซอยทองหล่อ 10 ต่อมาผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา ต่อมาเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2561 นายอาชวิน ได้เข้ามอบตัวต่อสู้คดีที่ บก.ป.ไปแล้ว ขณะที่ผู้ต้องหาที่เหลือยังคงหลบหนี จากนั้นชุดสืบสวน กก.1 ร่วมกับ กก.สนับสนุน บก.ป.สืบทราบว่า นายยศพัฒน์ หลบหนีคดีมาอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 82 หมู่ 1 ต.ดอนใหญ่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี ของนายสง่า เพ็ญธำรงรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน ต.ดอนใหญ่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี จึงวางแผนสืบสวนติดตามจับกุม โดยนำหมายศาลอาญา เข้าตรวจค้นบ้านพักดังกล่าว และที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน กระทั่งพบตัวนายยศพัฒน์ จึงจับกุมตัวไว้

จากการสอบสวนเบื้องต้นนายยศพัฒน์ รับสารภาพว่า ร่วมกับพวกก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้เสียหายรายนี้จริง ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นได้โยนทิ้งไปหลังจากก่อเหตุ โดยจำไม่ได้ว่าทิ้งไปที่จุดใด

ทั้งนี้ ในระหว่างการตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบตัวนายธีรพันธุ์ ลูกเขยของนายสง่า ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร อยู่ด้วย จึงควบคุมตัวไว้สอบสวนดำเนินคดีอีกราย นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนสั้น 5 กระบอก และปืนลูกซอง รวมทั้งปืนขนาด .22 รวมทั้งหมด 7 กระบอก อยู่ในความครอบครองของนายสง่า จึงยึดไว้ตรวจสอบ เบื้องต้นสำหรับอาวุธปืนสั้น มีทะเบียนถูกต้อง ยกเว้นปืนขนาด .22 ที่หลักฐานทางทะเบียนเป็นของผู้อื่น หรือครอบครองผิดมือ อย่างไรก็ดี  เจ้าหน้าที่ไม่พบตัวนายสง่า โดยหากพบว่าอาวุธปืนทั้งหมดที่ยึดได้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ก่อเหตุหรือกระทำความผิดใดๆ ก็จะพิจารณาดำเนินคดีต่อไป

สำหรับนายยศพัฒน์ เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ป.ดำเนินคดี ขณะที่ นายธีรพันธุ์ ได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร รับไว้ดำเนินคดี