จับได้โดย‘กลิ่นตัว’! ผดส.รถทัวร์เหม็นอึ้บแจ้งตร.ซิวต่างด้าว รับขายบ้านจ่ายนายหน้าพาเข้ามาเลย์
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ชุมพร ว่า เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 11 ก.พ.62 ที่ สภ.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.ท.เจริญพงษ์ ขันติโร สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองชุมพร , น.ส.วัลภา แก้วสวี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร และตำรวจชุดสอบสวน ร่วมกันประชุมกำหนดประเด็นเกี่ยวกับการคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์ โดยผ่านล่ามในการสอบสวน เพื่อจัดเก็บข้อมูลนำไปสู่การขยายและติดตามขบวนการค้ามนุษย์
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 10 ก.พ.62 เวลา 02.00 ด่านตรวจยานพาหนะชุมพร กก.2 บก.ปส.4 นำโดย พ.ต.ท.พิทยา สองเมือง รอง ผกก.2 บก.ปส.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ สนธิกำลังตั้งจุดตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ หมู่ 2 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ ระหว่างหลัก กม.ที่ 451 - 452 ซึ่งขณะปฏิบัติหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นรถโดยสารประจำทาง บริษัท ST ศรีสุเทพทัวร์ (กรุงเทพ-ทุ่งสง-เชียรใหญ่) ทะเบียน 15-4541 กทม. มีนายสุรศักดิ์ หลียา อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาอยู่ จ.ตรัง เป็นคนขับที่ 1 และนายประสิทธิ์ แก้วหยด อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาอยู่ จ.ตรัง เป็นคนขับที่ 2 ขับเข้าด่าน
จากนั้นมีผู้โดยสารเปิดประตูแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่าน ว่า มีผู้โดยสารน่าจะเป็นแรงงานต่างด่านชาวเมียนมาที่นั่งมาด้วย นับ 10 คน สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปทั้งรถซึ่งเป็นรถปรับอากาศ
เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ พบผู้โดยสารเป็นชาวเมียนมา จำนวน 13 คน โดยแยกเป็นชาย 8 คน หญิง 5 คน นั่งปะปนมากับผู้โดยสารคนไทย ตรวจสอบไม่มีเอกสารหลักฐานการเข้าเมืองแสดงต่อเจ้าหน้าที่
จากการสอบสวนคนขับรถทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 62 เวลา 20.00 ได้ขับรถโดยสารคันดังกล่าวออกจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. และได้รับการติดต่อจาก นายโอ (ไม่ทราบชื่อ-สกุล) ให้แวะรับชาวเมียนมา จำนวน 13 คน ที่ จ.สมุทรสาคร ให้ไปส่งที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยได้จ้างหัวละ 1,200 บาท จึงแจ้งข้อกล่าวหาคนขับรถโดยสารทั้ง 2 คน ว่า ร่วมกันนำพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย และได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สลุย เพื่อทำการสอบสวนคัดแยกเหยื่อ
จากการสอบสวนพบว่าจำนวนทั้ง 13 คน เป็นชาวเมียนมา จากรัฐยะไข่ โดยทุกคนมีสามี ภรรยาและญาติ อยู่ในประเทศมาเลเซีย จึงต้องการไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยยอมขายที่ดินและบ้าน เพื่อนำเงินที่คิดค่าเป็นเงินไทยแล้ว จำนวนประมาณ 1 แสนบาท จ่ายให้กับนายหน้า เพื่อพาหลบหนีนำพาจากรัฐยะไข่ ข้ามประเทศไทย โดยเข้าแนวตะเข็บชายแดน ภาคเหนือ ลัดเลาะเปลี่ยนมากับรถกระบะเป็นจุดสุดท้ายขึ้นรถทัวร์ปรับอากาศ แล้วมาถูกจับกุมดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี