13 ก.พ. 62 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม./รอง ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท./รอง ผอ.ศปอส.ตร.ควบคุม กำกับชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ฯ, พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม.,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 ,พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร. และเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ ศปอส.ตร. แถลงข่างผลการจับกุมผู้ต้องหาคดี Romance scam
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ตามนโยบายของรัฐบาล มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดและส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้สูญเสียทรัพย์สินจำนวนมาก เพื่อให้การปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าวเกิดความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ได้ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง และร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดี Romance scam มาโดยตลอดนั้น
ต่อมาจึงได้มี การสืบสวนขยายผลจนทราบว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิดจำนวนหลายคนเป็นขบวนการ เข้าลักษณะองค์กรอาชญากรรม มีผู้ร่วมกระทำความผิดทั้งชาวไทย และต่างชาติ และยังพบว่ามีบัญชีคนร้ายบางคนที่ยังไม่ได้ถูกจับกุม มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ในประเทศมาเลเซีย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลทั้งหมด 10 ราย เป็นคนไทย 5 ราย ชาวไนจีเรีย 4 ราย และไม่ทราบสัญชาติ 1 ราย ต่อมาเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร.สืบสวนติดตาม จับกุมตัวได้ 6 ราย เป็นชาวไนจีเรีย 1 ราย คนไทย 5 รายโดยจับกุมน.ส.กนกกาญจน์ ชาญกล้า สัญชาติไทย ทำหน้าที่ม้ากดเงิน ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 80/2562 ( อายัดตัว ),น.ส.นิศารัตน์ มะโนวรรณ สัญชาติไทย ทำหน้าที่เป็นเจ้าของบัญชีรับโอนแถว 1 ผู้ต้องหาตามหมายจับ
ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 81/2562 ( อายัดตัว ),นายพิทักษ์ ประชากูล สัญชาติไทย ทำหน้าที่เป็นเจ้าของบัญชีรับโอนแถว 1 ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 82/2562,น.ส.กรรณิกา ถุงจันทร์ สัญชาติไทย ทำหน้าที่เป็นเจ้าของบัญชีรับโอนแถว 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 83/2562 และน.ส.ณรินทร์ วงค์เครือศร สัญชาติไทย ทำหน้าที่เป็นเจ้าของบัญชีรับโอนแถว 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 84/2562,นายนาดูบูซี เคนเนท โอติ สัญชาติไนจีเรีย ทำหน้าที่เป็นเจ้าของบัญชีรับโอนแถว 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 87/2562 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ,เป็นอั้งยี่ และร่วมกันฟองเงิน ส่วนผู้ต้องหาที่ยังจับกุมไม่ได้คือ ชาวไนจีเรียหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว 3 ราย อีก 1 ราย ออกหมายจับตามภาพถ่ายหน้าเฟสบุ๊ค โดยผู้ต้องหาที่หลบหนีจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดี
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เครือข่ายในการกระทำผิดนี้มีผู้เสียหายที่เกี่ยวข้อง จำนวน 6 ราย เหตุเกิดหลายพื้นที่ ได้แก่ สภ.บางเสาธง , สภ.เจริญศิลป์ , สภ.เมืองระยอง , สภ.รัตนธิเบศร์ , สภ.เมืองนครศรีธรรมราช , สภ.เมืองสกลนคร มีมูลค่าความเสียหารวมทั้งสิ้น ประมาณ 2,552,570 บาท ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาเพียงข้อหาฉ้อโกงธรรมดา เป็นคดีที่ยอมความได้ กลุ่มผู้ต้องหาจะมีการตกลงค่าเสียหาย
เพื่อให้ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์แล้วกลับมากระทำผิดซ้ำอีกโดยมิได้เกรงกลัวต่อกฎหมาย ภายหลังเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร.จึงได้มีการศึกษาแผนประทุษกรรมของคนร้ายพบว่ามีลักษณะกระทำกันหลายพื้นที่ โอนบัญชีเดียวกัน วิธีการหลอกหลวงคล้ายกัน เข้าข่าย ฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน จึงแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมและดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นความผิดอัน ยอมความมิได้ อีกทั้งได้นำเอามาตรการยึดทรัพย์ตามกฎหมายเกี่ยวกับการฟอกเงินมาใช้กับกลุ่มผู้ต้องหาเพื่อให้เกิดความเข็ดหลาบ ไม่กลับมากระทำความผิดซ้ำอีกต่อไป สุดท้ายนี้ฝากเตือนไปยังประชาชนชาวไทย อย่าได้หลงเชื่อคนร้ายที่แฝงตัวมาเป็นผู้ใช้บัญชีเฟสบุ๊ค และแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ หลอกลวงให้ตกหลุมรักและหลอกให้โอนเงินอีกทั้งอย่าได้ยินยอมมอบบัญชีธนาคารของตนเองให้กับคนร้ายเพื่อแลกกับเงินค่าจ้างเพียงเล็กน้อย เพราะหากไม่มีคนไทยร่วมกระทำความผิดด้วยแล้ว ผู้ต้องหาที่เป็นชาวต่างชาติก็ไม่อาจที่จะกระทำความผิดจนสำเร็จได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี