มีโอกาสเข้าไปดู เฟซบุ๊คไลฟ์ ย้อนหลังของเครือข่ายเกษตรและอาหารปลอดภัย หรือ GAP Net การเสวนาเรื่อง “ทิศทางการเกษตรไทย หลังการเลือกตั้ง” ซึ่งสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร ร่วมกับเครือข่ายเกษตรและอาหารปลอดภัยจัดขึ้น เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ CDC เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา
การเสวนาครั้งนี้ ได้เชิญผู้แทนพรรคการเมืองบางพรรคมาร่วมแสดงทรรศนะที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรใน 2-3 ประเด็น ทุกคนมีเวลาพูดเท่ากันหมด
ผู้แทนพรรคการเมืองที่มาร่วมเสวนามี 7 ท่าน ได้แก่ ดร.ศุภชัย ศรีหล้า พรรคประชาธิปัตย์ ชุมพล รุ่งวิชานิวัฒน์ พรรคชาติพัฒนา องอาจ ปัญญาชาติรักษ์ พรรคพลังประชารัฐ อนุกูล ทรายเพชร พรรคอนาคตใหม่ ดร.กนก คติการ พรรคชาติไทยพัฒนา วิทยา บูรณศิริ พรรคเพื่อไทย และ นายแพทย์มโน เลาหวณิช พรรคประชาชนปฏิรูป
อยากจะถ่ายทอดแนวคิดที่น่าสนใจของผู้แทนพรรคการเมืองเหล่านั้นให้ท่านที่สนใจได้ทราบ แต่จะไม่ระบุว่าใครพูดว่าอย่างไร เดี๋ยวจะเป็นการเชียร์กันเกินไป ถ้าใครอยากทราบว่าใครพูดว่าอย่างไร ขอให้เข้าไปชมกันเองที่ เฟซบุ๊ค @GAPTHAINETWORK
คำถามแรกที่ นารากร ติยายน ผู้ดำเนินรายการ ถามผู้แทนพรรคการเมืองทั้ง 7 พรรค ว่าจะลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเกษตรกรกับผู้ที่อยู่ในอาชีพอื่นได้อย่างไร
มีคำตอบที่น่าสนใจอยู่ 2-3 ท่าน ท่านหนึ่งบอกว่า ภาคการเกษตรน่าจะเริ่มจากเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อทุกคนอยู่ได้ ถ้าจะพัฒนาให้ก้าวหน้าหรือใหญ่ขึ้นรัฐต้องเข้ามาช่วยทั้งเงินทุน และงานวิจัยด้านเทคโนโลยีต่างๆ ขณะเดียวกันต้องแก้ไขเรื่องที่ดินทำกินที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่ดิน ส.ป.ก. ควรจะนำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ได้ เพื่อเกษตรกรจะได้นำเงินมาลงทุนต่อยอดกิจการของตนเองได้
อีกท่านหนึ่งบอกว่า เท่าที่ผ่านมาทุกรัฐบาล นโยบายด้านการเกษตรขาดความชัดเจนทางด้านความต้องการของเกษตรกร นโยบายปรับเปลี่ยนทุกรัฐบาล แต่ทุกรัฐบาลไม่เคยฟังเกษตรกร ถ้าจะลดความเหลื่อมล้ำต้องให้เกษตรกรทำผลผลิตให้ได้มาตรฐานความปลอดภัย และต้องหาตลาดให้เกษตรกร เริ่มจากตลาดในชุมชน ตำบล อำเภอ และจังหวัดตามลำดับ
บางท่านบอกว่าต้องสร้างตลาดพรีเมียมให้เกิดขึ้นตำบลละอย่างน้อย 1 ตลาด และต้องใช้ระบบสหกรณ์มาช่วย โดยเฉพาะสหกรณ์ในรูปแบบ CO-OP และบางท่านบอกว่าต้องให้ความรู้แก่เกษตรกรให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ จะใช้วิธีการผลิตแบบเดิมไม่ได้แล้ว เพราะประเทศอื่นๆ เขาไปถึงขั้นใช้หุ่นยนต์กันแล้ว
คำถามที่ 2 ภาคการเกษตรควรต้องเชื่อมโยงกับภาคใดบ้าง ต่อคำถามนี้แต่ละท่านแสดงทรรศนะที่ไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่พอจะจับประเด็นได้ว่า ต้องเชื่อมโยงกับระบบขนส่ง เพื่อให้ผลผลิตไปสู่ผู้บริโภคอย่างรวดเร็วโดยยังคงคุณภาพที่ดี ต้องเชื่อมโยงกับตลาดโดยใช้ตลาดนำการผลิต
คำถามสุดท้าย ผู้ดำเนินรายการถามว่า จะผลักดันอย่างไรให้เกษตรกรผลิตในระบบ GAP หรือ การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี ผู้แทนพรรคการเมืองหลายท่านยอมรับว่า GAP เป็นมาตรฐานสากลที่ทุกประเทศยอมรับ องค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพอนามัยของประชาชนยอมรับ บางประเทศมีการปรับปรุงกฎหมายให้เกษตรกรผลิตตามระบบ GAP (แต่ประเทศไทยยังเป็นมาตรการสมัครใจของเกษตรกร)
บางท่านบอกว่าควรจัดตั้งกองทุน GAP ขึ้นมาเพื่อไว้เป็นทุนช่วยเหลือเกษตรกร เหมือนอย่างที่ภาคอุตสาหกรรมมี BOI อีกท่านหนึ่งบอกว่า ถ้าจะให้ครัวไทยสู่ครัวโลก GAP มีความสำคัญมาก และเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการ เกษตรกรต้องผลิตอาหารปลอดภัย ใช้สารเคมีให้ถูกต้อง และ GAP ที่จะมีในอนาคตจะต้องให้เกษตรกรตรวจสอบกันเอง กระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้ควบคุมระบบ และตรวจสอบปลายทาง มีมาตรการปราบปรามผู้ที่ทำผิด
ผู้แทนพรรคการเมืองที่มาร่วมเสวนาในครั้งนี้ มีทั้งนักการเมืองรุ่นใหม่ และนักการเมืองรุ่นเก่าเก๋าสนามเลือกตั้ง บางท่านเคยเป็นถึงรัฐมนตรีมาแล้ว การเสวนาครั้งนี้อาจมีเวลาน้อยเกินไปสำหรับการแสดงความคิดเห็น แต่เวลาที่น้อยนิดนี้บางท่านก็พูดได้ตรงประเด็น และชัดเจน โดยเฉพาะนักการเมืองรุ่นใหม่
งานนี้จบลงด้วยเปิดให้มีการตั้งคำถามจากผู้ที่นั่งฟังการเสวนาที่อยู่หน้าเวที และคำถามที่ทำให้งานจบเร็วขึ้น คือคำถามจาก สุกรรณ์ สังข์วรรณะ เกษตรกรจากจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ว่า ทุกท่านบนเวทีมีแนวคิดอย่างไรเกี่ยวกับการแบนสารเคมี 3 ชนิด ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนอยู่ในขณะนี้
หลายท่านตอบว่าเห็นด้วยกับการแบน โดยอ้างถึงอันตรายต่อสุขภาพของเกษตรกรอย่างที่ฝ่ายเรียกร้องให้แบนอ้างมาโดยตลอด บางท่านถึงกับบอกว่าสารเคมีที่ว่านี้เป็น “อสูร” และบางท่านบอกว่า อันตรายมาก กินแล้วตายทันที (จนคนถามเองตะโกนบอกว่า สารเคมีทางการเกษตรเขาไม่ได้ให้กิน)
แต่มีอยู่ท่านหนึ่งตอบว่า “สารเคมีทางการเกษตรมีทั้งประโยชน์ และโทษ ถ้าทั่วโลก หรือสากลเขาให้แบน ก็เห็นด้วยว่าควรแบน”
ถ้าหวังว่าจะให้ภาคการเกษตรมีอนาคต....ตัดสินใจได้ล่ะ ว่าจะเลือกพรรคไหน........
แว่นขยาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี