‘ดีเอสไอ’ปรับเกณฑ์รับคดีพิเศษใหม่ คืนอำนาจสอบสวนบางส่วนให้ตำรวจ
14 ก.พ.62 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ออกเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์เผยแพร่ราชกิจจานุเบกษา เรื่อง DSI ปรับเกณฑ์การรับคดีพิเศษใหม่ คืนอำนาจสอบสวนบางส่วนให้ตำรวจโดยมีเนื้อหาดังนี้
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 เว็บไซต์สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 136 ตอนพิเศษ 32 ง เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการคดีพิเศษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ประกาศ ณ วันที่ 8 มกราคม 2562 เรื่อง กำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 อันเป็นการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การรับคดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษใหม่ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีการปฏิรูปการทำงานตามนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในการทบทวนบทบาทภารกิจและงานในความรับผิดชอบให้มีความสอดคล้องกับสภาพของอาชญากรรมในปัจจุบันที่มีความเปลี่ยนแปลงไปและเป็นไปตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งหน่วยงานที่มุ่งเน้นการสืบสวนสอบสวนคดีความผิดทางอาญาที่ความซับซ้อน ต้องใช้วิธีการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเป็นพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547
สำหรับสาระสำคัญของประกาศ กคพ. (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 จะเป็นการกำหนดรายละเอียดของความผิดที่เป็นคดีพิเศษที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษเสียใหม่ให้มีความชัดเจน สามารถพิจารณาได้ในเบื้องต้นว่าคดีใดจะเป็นคดีพิเศษ โดยบัญชีท้ายประกาศดังกล่าวจะกำหนดชื่อกฎหมาย มาตรา และรายละเอียดที่ใช้ประกอบการพิจารณา ซึ่งกำหนดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวนผู้เสียหาย หรือพฤติการณ์ในการกระทำความผิด เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ประชาชนทั่วไปยังสามารถแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนตำรวจในท้องที่เกิดเหตุได้ตามปกติโดยไม่ต้องกังวลเรื่องรายละเอียดตามบัญชีท้ายประกาศ กคพ.ดังกล่าว หากภายหลังพนักงานสอบสวนผู้รับแจ้งความพบว่าเป็นความผิดที่เข้าข่ายอาจเป็นคดีพิเศษ ก็จะเป็นผู้ประสานงานมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษเอง ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับคณะกรรมการคดีพิเศษ ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ในคดีพิเศษระหว่างหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. 2547
สำหรับคดีอาญาอื่น ๆ ที่ไม่เป็นไปตามประกาศ กคพ.นี้ หากมีเหตุผลความจำเป็น เช่น มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประเทศในมิติต่างๆ หรือมีความซับซ้อน จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษในการดำเนินคดี คณะกรรมการคดีพิเศษก็อาจหยิบยกขึ้นพิจารณาเพื่อมีมติให้เป็นคดีพิเศษได้อีก ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) ซึ่งจะเป็นไปตามเหตุผลและความจำเป็นในแต่ละเรื่องไป ทั้งนี้ หากท่านมีข้อสงสัยในการดำเนินการตามประกาศ กคพ.ฉบับดังกล่าว สามารถปรึกษาได้ที่กองบริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หรือโทรศัพท์สายด่วน “1202” ต่อกองบริหารคดีพิเศษ โทรฟรีทั่วประเทศ และสามารถ download ประกาศ กคพ. ได้จาก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/032/T_0005.PDF หรือที่เว็ปไซต์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ www.dsi.go.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี