ญี่ปุ่นสนใจคลองไทย
ส่งคนมาศึกษาข้อมูล
ลุ้นเส้นทางเดินเรือใหม่
คณะผู้บริหารองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือเจโทร สนใจประเด็นขุดคลองไทยที่ภาคใต้ พร้อมส่งทีมงานมาพบภาคเอกชนไทย ร่วมลุ้น
เส้นทางเดินเรือสายใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ก่อนหน้านี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ได้มีหนังสือสั่งการให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสภาความมั่นคงแห่งชาติทั้ง2องค์กรร่วมกันศึกษาในรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับโครงการคลองไทยที่ได้มีภาคประชาชน และองค์กรภาคเอกชนจำนวนมากเสนอเรื่องเข้าไปให้รัฐบาลเร่งศึกษาเชิงลึกเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต
ความคืบหน้าของเรื่องคลองไทยดังกล่าว พลเอกพงษ์เทพ เทศประทีป นายกสมาคมคลองไทยเพื่อการศึกษาและพัฒนา ได้กล่าวเปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทาง คณะผู้บริหารองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร กรุงเทพฯโดยนายคะทสึมิ อะเบะ ผอ.ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและนายริโยฮิ กามาด้า นักเศรษฐกิจอาวุโสภาคพื้นเอเชีย ได้ขอเข้าพบเพื่อขอทราบเจตนารมณ์ ถึงการออกมาขับเคลื่อนโครงการคลองไทยในครั้งนี้จนได้รับการตอบรับจากรัฐบาล รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นของเส้นทางการเดินเรือใหม่ของโลกที่ภาคใต้ของประเทศไทย
โดยพลเอกพงษ์เทพ กล่าวยืนยันว่าจากผลการศึกษาเบื้องต้น โครงการคลองไทยนั้น จะมีประโยชน์อย่างมากมายเมื่อเชื่อม2มหาสมุทรเข้าด้วยกันซึ่งนอกจากจะทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังจะเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของโลกอย่างมากมาย โดยเฉพาะจะเป็นคลองขนาดใหญ่คลองแรกของโลกที่มีพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจสองฝั่งคลองไทย มากถึง270 กิโลเมตรในขณะที่คลองเชื่อมมหาสมุทรต่างๆทั่วโลกไม่สามารถมีพื้นที่พัฒนาสองฝั่งคลองได้ ตนยืนยันว่า การสร้างคลองไทย
นอกจากเป็นการย่นระยะทางการเดินเรือของช่องแคบมะละกาได้แล้วที่สำคัญที่สุดคือการสร้างเศรษฐกิจมหาสมุทรขึ้นทั้งสองฝั่งมหาสมุทร ของประเทศไทยเลยทีเดียว คลองไทยจะไม่ใช่มีเป้าหมายรองรับเรือที่ผ่านช่องแคบสิงคโปร์เท่านั้น แต่จะรองรับเรือขนาดใหญ่ที่ผ่านช่องแคบลอมบ้อก และช่องแคบซุนดร้า ของอินโดนีเซียรวมถึงมีเป้าหมายที่จะรองรับเรือเดินสมุทรในอนาคตที่นับวันการสร้างเรือขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่ 3 แสนถึงห้าแสนตันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น คลองไทยจะแก้ปัญหาเรื่องโจรสลัด คลองไทยจะทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรเพิ่มขึ้นอีก1-2เท่าตัว ทุกวันนี้ราคายางพาราที่ประเทศไทยกิโลกรัมละ30-40บาทแต่ราคายางพาราที่สิงคโปร์ ราคากิโลกรัมละเกือบ200บาท
พลเอกพงษ์เทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า การคิดสร้างคลองไทยยังไม่ล่าช้าเพราะธุรกิจการขนส่งทางน้ำทางทะเลมีข้อจำกัดน้อย ต่างจากการขนส่งสัญจรทางบกทางอากาศ ที่มีข้อจำกัดต่างๆมากมายต้นทุนการขนส่งก็สูงมากด้วย หากประเทศไทยสร้างคลองไทย เราก็จะเป็นเส้นทางคมนาคมระดับซุเปอร์ไฮเวย์ต่างจากปัจจุบันท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือแหลมฉบัง เปรียบเสมือน ท่าเรือที่อยู่ในซอย เราต้องขนสินค้าไปถ่ายเทที่ท่าเรือสิงคโปร์ มากถึง90เปอร์เซ็นต์ทำให้ต้นทุนสินค้าแพงขึ้นและจากผลการศึกษาเบื้องต้น เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าที่ไหนมีท่าเรือ ที่ไหนเป็นเมืองท่าทั่วโลก เมืองเหล่านั้นล้วนแต่ร่ำรวย จากเศรษฐกิจมหาสมุทรแทบจะทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นท่าเรือสิงคโปร์ ฮ่องกง. มาเก๊า เชี่ยงไฮ้ ญี่ปุ่นเกาหลี รวมทั้งทุกเมืองท่าของอินเดีย ซึ่งรวมถึงธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศจะยิ่งเติบโตยิ่งขึ้น หากเกิดคลองไทยเพราะจะมีน้ำล้อมรอบถึง3ด้านเลยทีเดียว ทั้งนี้ผลกระทบในทางลบคงมีบ้างแต่เนื่องด้วยปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีมีนวัตกรรมสมัยใหม่ที่สามารถนำมาป้องกันละแก้ไขได้ทุกรูปแบบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี