ปปส.ตะครุบหนุ่มจีน
หนีหมายจับซุกไทย
ตัวการส่งต่อยานรก
ผ่านสามเหลี่ยมทองคำ
ป.ป.ส.แถลงจับแก๊งค้ายาเสพติดชาวจีน หนีหมายจับมากบดานในประเทศไทย ที่สุรินทร์ ตามคำขอของทางการจีน หลังสืบสวนพบเป็นตัวการสำคัญส่งต่อยาจากไทยไปจีนผ่านสามเหลี่ยมทองคำ ทำมานานนับปี รวบ”ตัวเป้ง”เครือข่ายเฮโรอีน-ไอซ์ส่งจากไทยไปจีนผ่านสามเหลี่ยมทองคำ หนีซุกสุรินทร์
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมตัวแทนจากประเทศจีน แถลงผลการปราบปราม ทำลายเครือข่ายการค้าเฮโรอีนข้ามชาติ ตามความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน จนจับกุมนายอู๋ เฉี่ยนชิง หนึ่งในผู้ต้องหาคดียาเสพติดชาวจีน ที่หลบหนีหมายจับมากบดานในประเทศไทยเป็นเวลา 1-2 ปี
โดยพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า การจับกุมนายอู๋ เฉี่ยนชิงครั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจปราบปรามยาเสพติดของจีนจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 24 ราย พร้อมของกลางเฮโรอีน 11.7 กิโลกรัม และยาไอซ์ 190 กรัม เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 ก่อนสอบสวนขยายผลทราบว่า ยาเสพติดของกลางถูกส่งมาจากชาวจีนอีก 2 ราย ที่หลบหนีหมายจับมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย ต่อมาคณะกรรมาธิการการควบคุมยาเสพติดแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน (NNCC) จึงประสานความร่วมมือทางการทูตมายังสำนักงาน ป.ป.ส. พิสูจน์ทราบตัวบุคคล และดำเนินการจับกุมเพื่อส่งตัวผู้ต้องหากลับไปดำเนินคดียังประเทศจีน
ด้านนายนิยมกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังได้รับการประสานจากทางการจีน ป.ป.ส.จึงประสานต่อไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และแจ้งเตือนกรณีพบความเคลื่อนไหวของคนร้าย กระทั่งวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ตำรวจ ตม. 4 จังหวัดสุรินทร์ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2561 นายอู๋ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญ รับหน้าที่ส่งต่อยาเสพติดจากไทยไปจีนผ่านเส้นทางสามเหลี่ยมทางคำ เพื่อจำหน่ายในประเทศปลายทาง โดยทำเช่นนี้มากว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งนายอู๋ให้ตัวแทนมาติดต่อขอทำวีซ่าเพื่ออยู่ต่อในประเทศไทย อ้างเหตุผลเพื่อขอเรียนศาสนา เจ้าหน้าที่จึงเพิกถอนวีซ่า เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีหมายจับในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด
เลขาฯป.ป.ส.กล่าวต่อว่า สำหรับนายอู๋นั้น ก่อนถูกจับกุมได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอ.เมือง จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวตามพ.ร.บ. คนเข้าเมือง และกักตัวไว้ที่กองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปจีนต่อไป สำหรับผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่ยังหลบหนีหมายจับอยู่ เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ นายเหว่ย เสี่ยวจุน รองเลขาธิการคณะกรรมาธิการควบคุมยาเสพติดแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวถึงสถานการณ์ยาเสพติดในอาเซียนว่า ต้นตอการผลิตมาจากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำซึ่งเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย ลาวและเมียนมาร์ เป็นหลัก ซึ่งมียาเสพติดร้ายแรงหลายชนิด ทั้ง เฮโรอีน และยาเคตามีน ที่ผ่านมามีการจับยาไอซ์รวมแล้วถึง 23 ตัน แสดงให้เห็นว่า ยังคงมีปริมาณยาเสพติดที่เพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การประสานความร่วมมือระหว่างจีน-ไทยที่ผ่านมานานหลายปี ยังคงแน่นแฟ้น และจะดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประสบผลสัมฤทธิ์มากที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี