20 ก.พ.62 พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน รอง ผกก.สส.,ร.ต.อ.อภินันท์ พลศร รอง สว.(สอบสวน) พร้อมด้วยกำลังตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวนได้คุมตัวนายปรีชา คชศิลา อายุ 43 ปี ผู้ต้องหา ข้อหาร่วมกันวิ่งรางทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท เหตุเกิดที่ร้านทองแม่มาลี เลขที่ 1655-7 ถนนเรมิตร สี่แยกตลาดท่าวัง ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อเช้าวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา แล้วถูกพลเมืองดีและตำรวจไล่จับกุมไว้ได้ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทองแม่มาลี ท่ามกลางกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคุ้มกันแน่นหนา โดยมีไทยมุงยืนดูการทำแผนจำนวนมากด้วยความสนใจเนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่ใจกลางย่านชุมชนตลาดท่าวังของ จ.นครศรีธรรมราช
โดยการทำแผนเริ่มจากจุดที่นายปรีชา และเพื่อนอีก 1 คน ทราบเพียงชื่อเล่นว่า ”อ่าง” ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบสี และยี่ห้อมาจอดริมถนนสายเนรมิต ห่างจากร้านทองประมาณ 50 เมตร แล้วนายปรีชา ทำทีเดินเข้าไปในร้านทอง ซึ่งพนักงานขายเปิดประตูอ้าเอาไว้ เนื่องจากเพื่อต้องการระบายควันธูปที่จุดไหว้เจ้าออกจากร้าน จากนั้นนายปรีชา ได้ทำทีขอดูสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จากพนักงานขายของร้านทองชื่อ น.ส.จีรวรรณ คงแก้ม อายุ 22 ปี โดยนายปรีชา อ้างว่าต้องการซื้อสร้อยคอทองคำไปเป็นของขวัญให้กับแฟนสาว เมื่อพนักงานขายหยิบสร้อยคอทองคำหนักให้นายปรีชา เลือกดูสักครู่นายปรีชา ได้กำสร้อยคอทองคำไว้แน่นแล้ววิ่งออกจากร้านทองหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยวิ่งไปตามถนนสายเนรมิตร มุ่งหน้าไปทางสถานีรถไฟ แต่ปรากฏว่าเมื่อนายปรีชาวิ่งไปถึงสี่แยกเนรมิตรได้มีพลเมืองดีคนหนึ่งชื่อนายสุรเชษฐ์ เพชรสนั่น อายุ 40 ปี ชาว อ.สิชล อาชีพผู้รับเหมา ซึ่งมาเดินเที่ยวในตลาดท่าวังผ่านมาประสบเหตุ ได้ใช้เท้าตัดขานายปรีชา จนล้มลงกลางถนน ก่อนถูกชาวบ้านและตำรวจสายตรวจนำโดย พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย สวป.และพวกเข้ามาจับกุมนายปรีชาได้ทันควันพร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ส่วนเพื่อนอีกคนที่ชื่อนายอ่าง เมื่อเห็นนายปรีชาถูกจับกุมจึงรีบเร่งเครื่องรถจยย.หลบหนีไปอย่างรวดเร็วทันที
ซึ่งทาง พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เผยว่า ส่วนคนร้ายอีกหนึ่งคน ทราบชื่อว่า “อ่าง “ ชุดสืบสวนกำลังเร่งสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเสนอขออนุมัติศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับนายอ่าง คนร้ายที่ยังหลบหนีไป ส่วนนายปรีชา ได้คุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ในส่วนนายสุรเชษฐ์ เพชรสนั่น ชาวอำเภอสิชล ซึ่งเป็นพลเมืองดีที่เข้าช่วยตำรวจจับกุมคนร้ายได้ทันควัน ทางตำรวจจะได้มอบประกาศเกียรติบัตรเชิดชูพลเมืองดีต่อไป
ด้านนายปรีชา กล่าวเสียงอ่อยว่ามีอาชีพรับจ้างก่อสร้างใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนเกิดเหตุนั่งดื่มเหล้ากับนายอ่าง เพื่อนคนงานที่เพิ่งรู้จักกัน จนเงินหมดไม่มีเงินจ่ายค่าเหล้าและอาหาร ประกอบกับติดหนี้นอกระบบจำนวน 7,000 กว่าบาท จึงชวนกันวางแผนขี่รถจักรยานยนต์จาก อ.ทุ่งสง มาวิ่งราวสร้อยคอทองคำในตัวเมืองนครศรีธรรมราช จนพลาดถูกจับกุมดังกล่าว ซึ่งตนเพิ่งทำเป็นครั้งแรก เพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้ตรวจสอบประวัตินายปรีชา ผู้ต้องหา พบว่าเคยถูกจำคุกในคดีลักทรัพย์มาเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน ในพื้นที่ อ.ทุ่งสง มาแล้วเมื่อพ้นโทษก็ยังมาก่อคดีอีกดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี