หวั่นมลพิษPM2.5พุ่งกระฉูดตามนโยบายประชารัฐสร้างไบโอฮับขอนแก่น เผยเพิ่มพื้นที่ปลูกอ้อยอีกมหาศาล "กลุ่มฮักบ้านเกิด"จวกหน่วยงานรัฐปกปิดข้อมูล ยื่นหนังสือจี้ กกพ.เปิดเผย
22 ก.พ.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (21 ก.พ.) ตัวแทนกลุ่มฮักบ้านเกิด บ้านเมืองเพีย ต.เมืองเพีย อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ นายวินิจ ศรีอุบล ผู้อำนวยการฝ่าย สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานประจำเขต 4 จังหวัดขอนแก่น เพื่อขอให้ดำเนินการศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน หรือชุมชน และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนการพิจารณาดำเนินการหรืออนุญาตใดๆ แก่ผู้ประกอบการ โดยให้คณะกรรมการฯ ทำหนังสือตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษร ภายใน 15 วัน และขอผู้ที่รับผิดชอบลงพื้นที่ชี้แจงข้อมูลโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลในนิคมอุตสาหกรรมชีวภาพทั้งหมดหลังจากรับหนังสือ โดย นายวินิจ รับปากว่า จะเร่งขอข้อมูลไปยังหน่วยงานราชการส่วนกลางที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาชี้แจงกับกลุ่มคนฮักบ้านเกิดโดยเร็ว
ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้มีการเปิดข้อมูลจากผู้ประกอบการว่า จะมีการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลขนาด 20,000 ตันต่อวัน พ่วงกับโรงไฟฟ้าชีวมวล 32 เมกะวัตต์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวไม่ตรงกับการรายงานข่าวและข้อมูลที่ทางกลุ่มได้สืบค้นมาว่าจะมีการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมชีวภาพ หรือไบโอฮับ ในพื้นที่ 4,000 ไร่ รวมถึงข้อมูลในแผนยุทธศาสตร์อ้อยและน้ำตาลทราย 10 ปี (พ.ศ.2558 - 2569) ของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล (สอน.) ที่ระบุเป้าหมายในการผลิตไฟฟ้าชีวมวล จะเพิ่มขึ้นจาก 1,542 เมกะวัตต์ เป็น 4,000 เมกะวัตต์
น.ส.ผจงพร ผิวเผื่อน ตัวแทนกลุ่มฮักบ้านเกิด กล่าวว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการ และนายอำเภอบ้านไผ่ ได้ประชุมร่วมกับชาวบ้านโดยอ้างว่าเพื่อชี้แจงข้อมูลให้ผู้ได้รับผลกระทบในรัศมีโครงการ 5 กิโลเมตร แต่ได้เปิดเผยข้อมูลเฉพาะโรงงานอ้อยและน้ำตาลขนาด 20,000 ตันต่อวัน พ่วงกับโรงไฟฟ้าชีวมวล 32 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมีการก่อสร้างในไบโอฮับเท่านั้น การจัดประชุมดังกล่าวจึงเป็นการให้ข้อมูลเท็จ ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงเพื่อให้ชาวบ้านได้รับรู้ข้อมูลที่รอบด้าน
"มีการรายงานข่าวในสื่อต่างๆ และงานวิชาการที่เกี่ยวข้องมาตั้งแต่ปี 2558 เรื่อง ไบโอฮับ ใน อ.บ้านไผ่ แม้แต่ผู้บริหารที่จะเข้ามาประกอบกิจการก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนมาเป็นระยะว่า พื้นที่ 4,000 ไร่ ที่ซื้อไว้จะสร้างเป็นนิคมอุตสาหกรรมชีวภาพ และจะมีโรงไฟฟ้าชีวมวล 1,800 เมกะวัตต์ แต่กลับไม่เคยมีหน่วยงานรัฐลงพื้นที่มาให้ข้อมูลทั้งหมดกับชาวบ้านมาก่อนเลย เมื่อชาวบ้านไปขอข้อมูลจากนายอำเภอ อุตสาหกรรมจังหวัด หรือ อบต.บ้านไผ่ หน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานก็บ่ายเบี่ยง อ้างว่ายังไม่มีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่โครงการขนาดใหญ่แบบนี้จะเป็นไปได้อย่างไรที่ไม่มีใครในหน่วยงานรู้เรื่องมาก่อน โรงไฟฟ้าชีวมวล 1,800 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่มาก และจะส่งกระทบอย่างมากมายกับชาวบ้าน" น.ส.ผจงพร กล่าว
ด้าน นางสุคลธมานย์ กั้วเจริญ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า หากในพื้นที่มีการสร้างนิคมอุตสาหกรรมชีวภาพ หรือโรงไฟฟ้าชีวมวล ย่อมเกิดผลกระทบเหมือนพื้นที่อื่นๆ ที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ใครจะรับผิดชอบ
"ถ้ามีอุตสาหกรรมชีวภาพเกิดขึ้นในพื้นที่ ใครจะรับประกันว่าจะไม่เกิดผลกระทบต่อแก่งละว้า พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับชาติ เป็นแหล่งผลิตน้ำประปาของ อ.บ้านไผ่ ที่มีคน 40 หมู่บ้าน ใช้ประโยชน์ในการหาอยู่หากิน เป็นพื้นที่ปศุสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดใน จ.ขอนแก่น เพราะการปลูกอ้อยใช้สารเคมีมากกว่าทำนา 5 เท่า โรงงานอุตสาหกรรมจะแย่งน้ำและปล่อยน้ำเสีย แก่งละว้าย่อมได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องมลพิษทางอากาศจากการเผาอ้อย ควันจากการเผาไหม้ ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 และเล็กกว่า 10 ไมครอน ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีหนทางแก้ปัญหา เมื่อกรุงเทพฯ หรือ จ.ขอนแก่น ได้รับผลกระทบจากมลพิษจากฝุ่นควันเป็นอันดับ 1 ในประเทศ" นางสุคลธมานย์ กล่าว
อนึ่ง ต่อมาวันที่ 23 ม.ค.60 ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อการขับเคลื่อนการลงทุนอุตสาหกรรมชีวภาพในประเทศไทย ตามนโยบายประชารัฐ สู่การพัฒนาคลัสเตอร์อุตสาหกรรม ระหว่างบริษัทเอกชน 13 ราย และหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษาและการวิจัย รวม 23 หน่วยงาน โดยจะมีการลงทุนโครงการต่างๆ 5 กลุ่ม ในช่วงระยะเวลา 10 ปี ในภาคอีสาน ได้แก่ 1.กลุ่มเอทานอล จากการใช้อ้อยและมันสำปะหลัง เป้าหมายผลิต 2,506 ล้านลิตรต่อปี 2.กลุ่มโรงงานชีวมวลจากชานอ้อย เป้าหมายผลิตไฟฟ้า 1,800 เมกะวัตต์ และการนำกากมันมาผลิตเป็นก๊าซชีวภาพแล้วนำไปผลิตไฟฟ้า 336 - 500 เมกะวัตต์ 3.กลุ่มไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ 4.กลุ่มไบโอพลาสติก หรือ พลาสติกชีวภาพ และ 5.กลุ่มแป้งและน้ำตาล และกลุ่มอุตสาหกรรมยา ชีววัตถุ วัคซีนขั้นสูง โดยการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพจะมี "ศูนย์กลางอุตสาหกรรมชีวภาพ หรือไบโอฮับ" ในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งผู้ประกอบการได้กว้านซื้อที่ดินไว้แล้วประมาณ 4,000 ไร่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี