สายเขียวเฮ!
นักวิจัย-ผู้ป่วย-บุคคลอื่น
คกก.ยาฯเสนอ‘รมว.สธ.’
คาดประกาศสัปดาห์หน้า
นิรโทษครอบครองกัญชา
คณะกรรมการยาเสพติดให้โทษ มีมติรับรองร่างกฎหมายนิรโทษ ผู้ครอบครองกัญชา 3 กลุ่ม ให้แจ้งการครอบครองภายใน 90 วัน เตรียมชง รมว.สาธารณสุข ลงนาม คาดประกาศลงราชกิจจาฯสัปดาห์หน้า เผยเพิ่มบทบัญญัติ “นำของกลาง” ไปศึกษาได้ “หมอ” ต้องผ่านการอบรม ย้ำ ไม่เปิดปลูกกัญชาเสรี
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการ อย.ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการยาเสพติดให้โทษว่าที่ประชุมมีมติรับรองร่างประกาศนิรโทษผู้ครอบครองกัญชา 3 ฉบับ โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติมตามที่ได้มีการประชาพิจารณ์เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ด้วย โดยประกาศทั้ง3ฉบับจะครอบคลุมบุคคล3กลุ่มคือ1.ผู้ศึกษาวิจัย 2.ผู้ป่วยที่มีใบรับรองแพทย์ได้รับการรับรองการเจ็บป่วย จะอนุญาตให้ใช้ในปริมาณที่เพียงพอต่อการรักษาโรคเท่านั้น ที่เหลือต้องนำเข้าเป็นของกลาง แต่หากผู้ป่วยมีความจำเป็น ต้องใช้มากกว่านั้นก็แจ้งความประสงค์มาและ3.บุคคลอื่นๆ
“ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มนี้ จะต้องมาแจ้งการครอบครองภายใน 90 วันหลังจากที่ประกาศร่างกฎหมายลงในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในวันเดียวกันนี้ คณะกรรมการฯ จะส่งร่างฯ ให้ รมว.สาธารณสุข ลงนาม และคาดว่าน่าจะประกาศลงราชกิจจานุเบกษาภายในสัปดาห์หน้า”เลขาธิการ อย.ย้ำ
นพ.ธเรศ กล่าวว่าในส่วนที่มีการปรับแก้เพิ่มคือเพิ่มบทบัญญัติให้ผู้สนใจนำกัญชาของกลางไปศึกษาวิจัยในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ แทนการนำไปทำลายทิ้งเช่นไปวิจัยหาสาระสำคัญ ศึกษาสารปนเปื้อนเป็นต้น ดังนั้น แทนที่จะตั้งคณะกรรมการทำลายของกลาง ก็เป็นคณะกรรมการพิจารณาการนำกัญชาไปใช้ประโยชน์แทน นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ป่วยก็มีการแก้ไข เดิมอนุญาตให้ผู้ป่วยใช้เฉพาะตำรับกัญชาสำเร็จรูปได้เท่านั้น ก็มีการแก้ไขให้มีการใช้ ต้น ใบ ดอก ของกัญชาสำหรับรักษาโรคได้เพราะยังมีผู้ป่วยบางกลุ่มจำเป็นต้องใช้
ทั้งนี้ ในส่วนของแพทย์ที่สามารถใช้กัญชาได้ คือแพทย์แผนปัจจุบัน ผู้ที่มีใบรับรองแพทย์แผนไทย หรือแผนไทยประยุกต์ รวมถึงกลุ่มหมอพื้นบ้านที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกมีการรับรองไปแล้วประมาณ 3 พันคน โดยขณะนี้มีการทำระบบข้อมูลเชื่อมต่อกับร่างระเบียบคุณสมบัติผู้ที่ใช้กัญชารักษาโรค ซึ่งร่างนี้กำลังจะเสนอ รมว.สาธารณสุข เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้จะสามารถใช้ได้จริงต้องผ่านการอบรมการใช้กัญชาเพื่อรักษาโรคจากกรมการแพทย์ที่กำลังร่างหลักสูตร
นพ.ธเรศ กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงสาธารณสุข การขออนุญาตและการอนุญาต ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ตรงนี้มีการล็อคเอาไว้ว่าใน 5 ปี แรกต้องเป็นการทำร่วมกับหน่วยงานรัฐ เท่านั้น ในส่วนของภาคเอกชน หากเป็นนิติบุคคลต้องเป็นคนไทย 2 ใน 3 ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวจะมีการนำไปประชาพิจารณ์ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมๆกับร่างประกาศตำรับยา และร่างประกาศวิชาชีพที่สามารถปรุงยา เป็นต้น
ด้าน นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า สำหรับตำรับยาแพทย์แผนไทยที่จะมีการเอากัญชามาใช้ประโยชน์ปัจจุบันสังเคราะห์ได้ 96 ตัว แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่ม ก. มี 16 ตัว ซึ่งเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมที่สูตรชัด วิธีการชัดสามารถใช้ได้เลย ส่วนใหญ่ใช้ในการรักษากลุ่มอาการ ปวด นอนไม่หลับ เป็นต้น 2.กลุ่ม ข.กลุ่มที่มีสูตรชัด แต่วิธีการปรุงยายังไม่ชัด ต้องศึกษาเพิ่มเติม 3.กลุ่ม ค. ต้องศึกษาวิจัย และ 4.กลุ่ม ง. กลุ่มที่ยังติดขัดในข้อกฎหมายอื่นๆ เช่น อนุสัญญาไซเตส เพราะมีการห้ามใช้สมุนไพรบางตัว
เมื่อถามว่ามีหลายพรรคการเมืองที่หาเสียงชูนโยบายปลูกกัญชาเสรีแต่ในแง่ของกฎหมายทำได้แค่ไหน นพ.ธเรศ กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่ 7ระบุว่าผู้ที่จะได้รับอนุญาตเช่นนักวิจัย มหาวิทยาลัย กลุ่มเกษตร วิสาหกิจชุมชน เหล่านี้ต้องมาแจ้งวัตถุประสงค์ของการปลูกอยู่แล้วว่าจะปลูกเพื่ออะไร ทำอะไรเช่นเพื่อทำวิจัย ทำร่วมกับใคร ปริมาณเท่าไหร่ หรือ ปลูกเพื่อส่งการแพทย์แผนไทยก็ต้องมีรายละเอียดว่าส่งใคร ปริมาณเท่าไหร่ คล้ายๆกับการทำคอนแทคฟาร์มมิ่งเป็นต้น หลักการคือไม่ได้อนุญาตให้มีการปลูกกัญชาเสรี
ทั้งนี้เพื่อควบคุมการใช้กัญชาในปริมาณที่เหมาะสม ไม่หลุดไปนอกระบบและเพื่อให้ทราบปริมาณที่ชัดเจนเพราะประเทศไทย ยังอยู่ภายใต้สนธิสัญญายาเสพติดระหว่างประเทศ และต้องรายงานโควตาการผลิตส่งออกให้กับคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สวิสต์เซอร์แลนด์ทราบด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี