23 ก.พ.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.เชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย มอบหมายให้ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสธร รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เรียกผู้บริหารจาก อ.เชียงของ ประกอบด้วยนายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ กำนัน ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ นายกเทศมนตรี ต.ห้วยซ้ำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ต.ห้วยซ้อ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รายงานข้อเท็จจริงกรณียังเกิดการเผาจนทำให้เกิดจุดความร้อนหรือฮอตสปอตที่ดาวเทียมสามารถจับความร้อนได้ พื้นที่หมู่ 16 ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา
ขณะที่ทางจังหวัดเชียงราย โดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย ได้มีประกาศเรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันไฟป่าและการเผาในที่โล่ง จ.เชียงราย ปี 2561-2562 (ห้ามการเผาทุกชนิดโดยเด็ดขาด ระหว่างวันที่ 15 ก.พ.-15 เม.ย.2562) เพื่อป้องกันปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองไปแล้ว
โดยในครั้งนี้ทางจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้ อ.เชียงของ ได้นำไปปฏิบัติโดยด่วนคือให้ทางอำเภอได้เข้มงวดการห้ามเผาและประชาสัมพันธ์ไปยังท้องที่ต่างๆ ให้มากขึ้น และมีการแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ฝ่าฝืนต่อพนักงานสอบสวน สภ.บุญเรือง อ.เชียงของ โดยให้เร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีด้วย รวมทั้งให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านได้มีการจัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่เสี่ยงทุกวัน ด้านนายกเทศมนตรี ต.ห้วยซ้อ ในฐานะผู้อำนวยการท้องถิ่นให้จัดชุดอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เข้าเวรเฝ้าระวังและลาดตระเวนร่วมกับฝ่ายปกครองอย่างต่อเนื่อง ส่วนแผนการระยะยาวให้มีการจัดทำแผนพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ ทั้งนี้ทางจังหวัดแจ้งว่าหากยังเกิดเหตุไฟใหม้ขึ้นในพื้นที่ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 อีกก็จะดำเนินการทางวินัยตั้งแต่ตั้งแต่ระดับอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน รวมถึงเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย ทำให้ล่าสุดทาง อ.เชียงของ มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่และประชาชนเพื่อร่วมกันป้องกันอย่างหนักแล้ว
ทั้งนี้ทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย ได้มีประกาศดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2560 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากฝ่าฝืนและไฟเกิดลุกลามเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 150,000 บาท จากนั้นตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.-15 พ.ค.ให้มีการจัดระเบียบการเตรียมพื้นที่ทำกินโดยหากประสงค์จะเผาต้องขออนุญาตจากนายอำเภอและห้ามไม่ให้ไฟลุกลาม หากพบเห็นไฟป่าสามารถแจ้งสายด่วน 053712603 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทางด้านรายงานสถิติจุดความร้อนหรือฮอตสปอตของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ระบุว่าจากดาวเทียมระบบ MODIS รายจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.–19 ก.พ.ที่ผ่านมาตรวจพบจุดความร้อนทั่วประเทศจำนวน 1,447 จุด พบใน จ.ตาก 286 จุด เชียงใหม่ 279 จุด ลำปาง 220 จุด น่าน 212 จุด เชียงราย 185 จุด ลำพูน 120 จุด แพร่ 73 จุด แม่ฮ่องสอน 40 จุด และจังหวัดพะเยา 32 จุด และวันที่ 23 ก.พ.นี้ ได้ตรวจพบด้วยดาวเทียมระบบ VIIRS พบว่าเกิดขึ้นที่ จ.ลำปาง 274 จุด เชียงใหม่ 226 จุด น่าน 145 จุด แพร่ 143 จุด ตาก 138 จุด พะเยา 88 จุด ลำพูน 86 จุด แม่ฮ่องสอน 68 จุด ส่วน จ.เชียงราย มี 3 จุด.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี