23 ม.ค.62 จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองชัยนาท เข้าให้การช่วยเหลือ นางยอดรัก ทองดี อายุ 56 ปี หญิงพิการจากโรครูมาตอยด์ ซึ่งถูกลูกสาวทิ้งไว้เพียงลำพังมากว่า 2 เดือน ต้องใช้ชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบากในบ้านเก่าๆ ที่กำลังทรุดโทรม และต้องการให้เจ้าหน้าที่ช่วยตามหานางสาวแหม่มลูกสาวที่ทิ้งตนเองและหลาน ออกจากบ้านไปนานกว่า 2 เดือน ให้กลับมาหา โดยเบื้องต้นได้เบาะแสว่านางสาวแหม่มไปอาศัยอยู่บ้านสามีใหม่ ในตัวเมืองชัยนาทตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดทีมข่าวของเราลงพื้นที่ไปยังบ้านของนางยอดรักอีกครั้ง ซึ่งพบกับภาพที่น่าเวทนาชวนหดหู่ เพราะนางยอดรักกำลังนั่งมองมาที่หน้าประตูบ้านด้วยสายตาที่เหม่อลอย มีน้ำตาคลอออกมาเป็นระยะ เมื่อทีมข่าวของเราสอบถาม นางยอดรักก็บอกว่า ตนเองนอนไม่ค่อยหลับเพราะคิดถึงลูกสาว จึงตื่นมาเปิดประตูบ้าน เฝ้ารอด้วยความหวังว่าลูกสาวจะกลับมาเยี่ยม ทุกครั้งที่เห็นเงาคนผ่านประตูตนเองจะชะเง้อมองตามด้วยความหวังทุกครั้ง แต่ก็ยังไร้เงาลูกสาวที่ตนเฝ้ารอ
นางยอดรักบอกกับเราอีกว่า ได้วานให้เพื่อนบ้านโทรศัพท์เข้ามือถือของลูกสาวหลายต่อหลายครั้ง แต่ลูกสาวก็ไม่ยอมรับสาย ไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุอะไร ทำให้ตนเองยิ่งห่อเหี่ยวหัวใจ ทั้งคิดถึงลูก อีกใจก็เป็นห่วงว่าลูกจะไม่สบายเจ็บหรือเปล่า ถ้าแหม่มลูกสาวนางยอดรักทราบข่าวขอให้ติดต่อกลับหรือเข้ามาหาแม่ เพราะแม่คิดถึงและเป็นห่วงมาก
ส่วนด้านความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ หลังจากที่สื่อมวลชนได้นำเสนอเรื่องราวความทุกข์เข็ญของนางยอดรัก นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผวจ.ชัยนาท และเหล่ากาชาดจังหวัดชัยนาท ได้นำสิ่งของเข้าช่วยเหลือบรรเทาทุกข์เบื้องต้น พร้อมรับปากว่าจะนำเรื่องของบประมาณสร้างบ้านพักผู้ยากไร้ เข้าที่ประชุมจังหวัด เพื่อขออนุมัติสร้างบ้านให้นางยอดรักบนที่ดินแห่งใหม่ของญาติๆที่อยู่ไม่ไกลกันนักให้ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี