คุณภาพอากาศเริ่มแย่
7จว.เหนือ
‘เชียงราย’คุมเข้มห้ามเผา
ลำปางระวังอาฟเตอร์ช็อก
7 จังหวัดภาคเหนือคุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ปภ.เร่งประสานเพื่อให้แก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ด้านผู้ว่าฯ เชียงรายสั่งคุมเข้ม ห้ามเผา ถ้ามีอีกจะเอาผิดทุกระดับ ขณะที่เรื่องแผ่นดินไหว ‘ลำปาง’เฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อก หน่วยงานเร่งเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า ในพื้นที่ภาคเหนือ 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ และตาก คุณภาพอากาศในภาพรวมเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานให้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด ตลอดจนขอความร่วมมืองดเว้นการเผาขยะและเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อป้องกันการเกิดไฟป่าและปัญหาหมอกควันปกคลุมพื้นที่
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 05.00 น. พบว่า ภาคเหนือมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) และปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เกินค่ามาตรฐาน 100 ใน 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ (ต.ช้างเผือก ต.ศรีภูมิ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม) ลำปาง (ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง ต.บ้านดง ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ) ลำพูน (ต.บ้านกลาง อ.เมืองลำพูน) แม่ฮ่องสอน (ต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน) น่าน (ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน) แพร่ (ต.นาจักร อ.เมืองแพร่) ตาก (ต.แม่ปะ อ.แม่สอด) โดยมีค่า PM2.5 ระหว่าง 51-105 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า PM10 ระหว่าง 33–126 มคก./ลบ.ม. และ AQI มีค่าระหว่าง 101–238
ซึ่งคุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ช้างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีค่า PM2.5 อยู่ที่ 105 มคก./ลบ.ม. ค่า PM10 อยู่ที่ 126 มคก./ลบ.ม. และ AQI มีค่าระหว่าง 238 คุณภาพอากาศอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสาน 7 จังหวัดภาคเหนือดังกล่าว ดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ รวมถึงได้จัดเจ้าหน้าชุดปฏิบัติการพร้อมด้วยเครื่องจักรกลสนับสนุนการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพื้นที่ป่าไม้ เน้นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบจุดไฟเผาพื้นที่เกษตรกรรมให้กำหนดช่วงเวลา จัดระเบียบการเผา และประกาศเขตห้ามเผา ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาขยะและเศษวัสดุทางการเกษตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย มอบหมายให้ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสธร รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เรียกผู้บริหารจาก อ.เชียงของ ประกอบด้วย นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ กำนัน ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ นายกเทศมนตรี ต.ห้วยซ้ำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ต.ห้วยซ้อ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รายงานข้อเท็จจริงกรณียังเกิดการเผาจนทำให้เกิดจุดความร้อนหรือฮอตสปอตที่ดาวเทียมสามารถจับความร้อนได้ พื้นที่หมู่ 16 ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดย ปภ.เชียงราย ได้มีประกาศเรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันไฟป่าและการเผาในที่โล่ง จ.เชียงราย ปี 2561-2562 (ห้ามการเผาทุกชนิดโดยเด็ดขาด ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์-15 เมษายน 2562) เพื่อป้องกันปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองไปแล้ว
โดยในครั้งนี้ ทางจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้ อ.เชียงของ ได้นำไปปฏิบัติโดยด่วนคือให้ทางอำเภอได้เข้มงวดการห้ามเผาและประชาสัมพันธ์ไปยังท้องที่ต่างๆ ให้มากขึ้น และมีการแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ฝ่าฝืนต่อพนักงานสอบสวน สภ.บุญเรือง อ.เชียงของ โดยให้เร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีด้วย รวมทั้งให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านได้มีการจัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่เสี่ยงทุกวัน ด้านนายกเทศมนตรี ต.ห้วยซ้อ ในฐานะผู้อำนวยการท้องถิ่นให้จัดชุดอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เข้าเวรเฝ้าระวังและลาดตระเวนร่วมกับฝ่ายปกครองอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแผนการระยะยาวให้มีการจัดทำแผนพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ ทั้งนี้ ทางจังหวัดแจ้งว่าหากยังเกิดเหตุไฟใหม้ขึ้นในพื้นที่ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 อีกก็จะดำเนินการทางวินัยตั้งแต่ตั้งแต่ระดับอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน รวมถึงเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย ทำให้ล่าสุดทาง อ.เชียงของ มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่และประชาชนเพื่อร่วมกันป้องกันอย่างหนักแล้ว
วันเดียวกัน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ เกิดแผ่นดินไหวบนบกบริเวณ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ขนาด 2.6 แมกนิจูด เบื้องต้นไม่ได้รับรายงานความรู้สึกสั่นไหว
อย่างไรก็ตาม ปภ. ยังคงติดตามสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้ ปภ.จังหวัด ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจความเสียหายในระดับพื้นที่ โดยแยกเป็นรายอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ประเมินความเสียหายและจำนวนผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี