‘บิ๊กโจ๊ก’นำทีมลุยค้น 17 จุด 13 คลินิก 4 จว. ส่อเข้าข่ายสถานพยาบาลเถื่อน
26 ก.พ.62 พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ในฐานะรอง ผอ.ศปอส.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร. , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. ในฐานะรอง ผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 สตม. ในฐานะเลขาฯ ศปอส.ตร. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปอส.ตร. ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กรมส่งเสริมและบริการสุขภาพ และสาธารณสุขจังหวัด เข้าปฏิบัติการตรวจค้นพร้อมกัน เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. รวม 17 จุด โดยมีเป้าหมายใน 13 คลินิก หลังจาก ศปอส.ตร. ได้รับร้องเรียนผ่านทางเว็บไซต์ www.tactics.center ว่าผู้เสียหายเข้ารับการรักษาฟันกับคลินิกแห่งหนึ่งแล้วไม่หาย แม้เข้าไปขอรับการรักษาซ้ำ อีกทั้งยังเกิดการอักเสบเรื้อรัง จึงเชื่อว่าคลินิกไม่มีแพทย์ประจำ หรือมีการรักษาผู้ป่วยด้วยบุคคลที่ไม่มีความรู้ทางการแพทย์หรือแพทย์ปลอม
ทั้งนี้ ชุดปฏิบัติการ 20-25 ศปอส.ตร. (Online team) จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลจนพบว่ามีการกระทำความผิดดังกล่าวจริง เป็นเครือข่ายขบวนการ เปิดโรงเรียนบริบาล บริการรถตรวจสุขภาพ โดยไม่มีแพทย์ประจำ มีเงินหมุนเวียนเดือนละกว่าห้าล้านบาท จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นคำร้องขอหมายค้นต่อศาล และศาลได้อนุมัติหมายค้นตามเหตุดังกล่าวรวมทั้งสิ้น จำนวน 17 จุด 13 คลินิก ในพื้นที่ย่านหนองจอก , ตลาดไท , เมืองเอก , ธัญบุรี , คลอง 8 , คลอง 13 จ.ปทุมธานี , จ.ชลบุรี , จ.พระนครศรีอยุธยา
จากการตรวจค้น พบการกระทำความผิดหลายข้อหา ดังนี้ 1. ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ต้องระวาง โทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และศาลจะสั่งริบ บรรดาสิ่งของที่ใช้ในการประกอบกิจการสถานพยาบาลด้วยก็ได้
2. ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ต้องระวาง โทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และศาลจะสั่งริบ บรรดาสิ่งของที่ใช้ในการประกอบกิจการสถานพยาบาลด้วยก็ได้
3. ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. ประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรมพ.ศ.2537
ผลการปฏิบัติการดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนทั้งสิ้น 11 ราย ยึดของกลางได้หลายรายการ ได้แก่ เครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์ ยาแผนปัจจุบัน หลักฐานการโอนเงิน บัญชีธนาคารปลายทาง เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดี ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า คลินิกข้างต้นมีหลักฐานเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับ “หมอดา” ทั้งหมด จึงจะได้ดำเนินการตรวจสอบตามความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินต่อไป
พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน หากมีอาการเจ็บป่วย จำเป็นต้องการเข้าไปรับรักษาในคลินิกตามพื้นที่ต่าง ๆ ควรตรวจสอบคลินิกที่เข้าไปรับการรักษาให้ดี โดยดูที่เอกสารประกอบกิจการสถานพยาบาล ในเรื่องสถานที่ กำหนดเวลาการเปิด-ปิด และเอกสารดำเนินการสถานพยาบาล ในเรื่องชื่อและใบหน้าแพทย์ผู้ให้การรักษา รายละเอียดต่างๆ ต้องตรงกันกับในเอกสารดังกล่าว หากไม่เป็นไปตามใบอนุญาตแล้ว ให้สันนิษฐานได้ว่า เป็นสถานพยาบาลที่เปิดโดยผิดกฎหมาย หากเข้ารับการรักษา อาจได้รับการรักษาที่ไม่มีมาตรฐาน จนอาจทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย หรืออาจผิดพลาดรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
# ขอบคุณข้อมูล-ภาพ : พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รองผบก.อก.สตม. และโฆษก บก.อก.สตม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี