17จว.เหนือ-อีสานแล้งจัด
นอกชลประทานอ่วม
จัดเวรแจกน้ำแก้ขัด
กรมชลฯยันมีน้ำพอ
รบ.ห่วงภัยแล้ง 17 จังหวัด เหนือ-อีสาน โดยเฉพาะนอกเขตชลประทาน จ่อดึงน้ำพื้นที่อื่นมาเติมแก้ขัด สทนช.ถกติดตามปริมาณน้ำแต่ละพื้นที่ กรมชลฯยันมีน้ำสำรองพอใช้ถึงต้นหน้าฝน พร้อมสนับสนุนน้ำให้พื้นที่ขาดแคลน
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งและปริมาณน้ำในเขื่อนขณะนี้ว่า ตนแจ้งเตือนในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ไปแล้ว เพราะอากาศร้อนเร็ว สิ่งที่น่าห่วงคือ พื้นที่นอกเขตชลประทาน แต่ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปรับแผนเพาะปลูก เพื่อลดความเสียหาย และจากนี้ต้องไปดูว่าน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคจะเป็นอย่างไร โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด บางพื้นที่อาจต้องดึงน้ำจากพื้นที่อื่นมาช่วย ส่วนในเขตชลประทานยังพอดูแลได้ แต่ทั้งหมดนี้ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานท้องถิ่น ต้องวางแผนรับมือ
ทั้งนี้ เท่าที่ดูสถานการณ์ในเขตชลประทาน น้ำสำหรับอุปโภคคงไม่เป็นปัญหา เราหาทางช่วยเหลือได้ แต่ที่จะเป็นปัญหาคือ ภาคการเกษตรซึ่งเรื่องนี้คงต้องไปปรับระบบการปลูกพืช อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดขณะนี้มี 17 จังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากนี้จะให้สทนช. ชี้แจงสถานการณ์ภาพรวม และคาดว่าฝนน่าจะมาเดือนพฤษภาคม
วันเดียวกัน นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นประธานประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่3/2562 ร่วมกับนายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมตัวแทนจากกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ มาตรการป้องกันและแก้ปัญหาของแต่ละหน่วยงานเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้ กรมชลประทานเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำปัจจุบัน ซึ่งมีปริมาณเก็บกักรวมทั้งประเทศ 50,133 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) แบ่งเป็นปริมาณน้ำใช้การ 26,204 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ50 และแหล่งน้ำอื่น 1,138 ล้านลบ.ม. รวมปริมาณน้ำที่ใช้การได้ทั้งประเทศ 27,342 ล้าน ลบ.ม. โดยมีแผนจัดสรรน้ำช่วงฤดูแล้งที่ 23,100 ล้าน ลบ.ม. จัดสรรไปแล้ว 15,899 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 69 และคงเหลือปริมาณน้ำอีก 7,201 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 31 ซึ่งมีน้ำเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง และมีน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนปี 2562 อีก 20,140 ล้าน ลบ.ม.
สำหรับแผนบริหารจัดการน้ำและการเตรียมความพร้อมพื้นที่เฝ้าระวังภัยแล้งแต่ละพื้นที่นั้น ได้จัดสรรน้ำไว้เพื่ออุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศ เป็นหลัก และทำการสำรองน้ำบางส่วนไว้ใช้ต้นฤดูฝน ส่วนในพื้นที่นอกเขตชลประทาน กรมชลประทานจะสนับสนุนน้ำเป็นครั้งคราว โดยจัดรอบเวรส่งน้ำตามความเหมาะสมและความจำเป็น นอกจากนี้ ยังเตรียมความพร้อมเครื่องมือ เครื่องจักรให้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านได้ทันที
ด้านพล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมสั่งทุกเหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง คาดว่าปีนี้จะได้รับผลกระทบวงกว้าง โดยให้เฝ้าระวังและเตรียมรับมือปัญหาไฟป่า และประสานการทำงานใกล้ชิดกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกจังหวัด เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยง พร้อมเตรียมกำลังพล อุปกรณ์เข้าช่วยเหลือทันทีโดยเฉพาะพื้นที่แล้งซ้ำซากหรือเสี่ยงขาดแคลนน้ำ อีกทั้ง ให้กองทัพอากาศ ประสานกระทรวงเกษตรฯสนับสนุนอากาศยานสนับสนุนปฎิบัติการฝนหลวง
ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งหลายจังหวัดเริ่มวิกฤติ อย่างจ.เลย โดยนายคมสัน จำรูญพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่โครงการชลประทานเลย เพื่อตรวจพื้นที่และวางแผนจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตร บริเวณแม่น้ำเลย ในอ.เมืองเลย ซึ่งจังหวัดเตรียมรับมือภัยแล้ง ลดความเดือดร้อนและความเสียหายให้มากที่สุด โดยโครงการชลประทานเลยได้หารือกับการประปาจังหวัดเลยจัดสรรน้ำดิบจากแม่น้ำเลยที่ไหลมาจากอ่างน้ำเลย เพื่อสูบน้ำขึ้นมาเป็นนำดิบป้อนให้ระบบประปาจังหวัดเลยวันละ 10,000 ลบ.ม. จนกว่าระดับในอ่างเก็บน้ำหมานมีน้ำมาเติมจนพอผลิตประปาได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี