7 มี.ค.62 เวลา 13.30 น. กระทรวงวัฒนธรรม นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน การประชุมคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย ครั้งที่ 2/2562 ที่ห้องประชุมใหญ่ สำนักหอสมุดแห่งชาติ โดยมี พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ฯ นายศิริศักดิ์ คชพัชรินทร์ กรรมการสื่อสร้างสรรค์ฯ พร้อมด้วย นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโคชเอก และตัวแทนผู้ปกครองของทีมหมูป่าฯทั้ง 12 คน และผู้ที่เกี่ยวข้อง
นายวีระ กล่าวว่า คณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ฯ ได้หารือเป็นครั้งที่ 2 เกี่ยวกับสิทธิเด็กในการใช้ชีวิต ซึ่งมีความก้าวหน้าไปมาก และที่ผ่านมาได้มีการประกาศให้บริษัทต่างๆเสนอเรื่องของโครงการ และกิจกรรมเกี่ยวกับสื่อในถ้ำหลวง ตั้งแต่วันที่ 15-30 พ.ย.2561 โดยมีบริษัทเสนอเข้ามาจำนวน 6 บริษัท ซึ่งทางคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ฯก็ได้พิจารนาคัดเลือกไว้ 2 บริษัท และในวันนี้ บริษัทที่มีผู้ปกครองของทีมหมูป่า และโคชเอก ได้คัดเลือกเหลือเพียง 1 บริษัท คือ บริษัท SK GLOBAL ENTERTINMENT ที่จะเข้ามาดำเนินการ
ด้าน พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ในการคัดเลือกบริษัทต่าง ๆทางคณะกรรมการฯ ซึ่งแต่งตั้งขึ้นโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มีคณะอนุกรรมการต่างๆ มีบทบาทหน้าที่ให้คำแนะนำและความชัดเจนที่ 2 บริษัทเสนอมาแต่ละเรื่องว่ามีอะไรบ้าง ทั้งเรื่องสิทธิต่างๆที่จะเกิดขึ้น และสิทธิต่างๆที่ถูกจำกัดในอนาคตตามข้อเสนอว่ามีอะไรบ้าง และข้อดี ข้อเสีย
และยังมีความชัดเจน เรื่องความกังวลของรัฐบาล ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้รัฐบาลยังสามารถนำไปใช้ได้หรือไม่ ภายหลังทำสัญญากับบริษัทใดไปแล้ว ประเทศไทยยังจะใช้เรื่องราวเหล่านั้นมาเป็นประโยชน์กับสาธารณชนได้อย่างไร ทางรัฐบาลและคณะกรรมการฯ ก็ห่วงเรื่องสิทธิต่างๆที่ทางผู้ปกครองจะได้รับว่ามีอะไรบ้าง และมีข้อเสนออะไร โดยเราบอกชัดเจน จนนำมาซึ่งการตัดสินใจของผู้ปกครองว่าบริษัทที่จะให้เข้ามาถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในถ้ำหลวง จะให้คุณค่า มีประโยชน์และได้สารความรู้และสร้างชื่อเสียง สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย ไม่ใช่แต่เรื่องราวชีวิตในถ้ำหลวงเพียงอย่างเดียว และจะให้สิทธิประเทศไทยสามารถนำเรื่องราวของทีม 13 หมูป่าไปถ่ายทอดได้ โดยไม่จำกัดสิทธิ จึงได้เลือก บริษัท SK GLOBAL ENTERTINMENT จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยความเห็นชอบของคณะตัวแทนของผู้ปกครอง และทีมหมูป่าทั้ง 12 คน และโคชเอก ในการให้เข้ามาถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
ซึ่งนอกจากเรื่องสิทธิต่างๆที่มองว่าเป็นธรรมที่สุดแล้ว ยังมีเรื่องผลตอบแทน ซึ่งได้มีการพูพคุยกับผู้ปกครองมาโดยตลอดว่า ผลประโยชน์ที่สำคัญที่สุดคือการที่เด็กๆและโคชมีชีวิตที่รอดปลอดภัยออกมาจากถ้ำได้ โดยความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนในสังคมประเทศและจากต่างประเทศ ซึ่งผู้ประสบภัยและผู้ปกครองก็ทราบดี ส่วนผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นซึ่งเป็นผลพลอยได้ที่จะได้ตามมาผู้ประสบภัยและผู้ปกครองก็ทราบดีว่าจะได้แต่ละคนต้องไปดูในรายละเอียดว่าได้รับคนละเท่าไหร่ แต่ผลประโยชน์จะต้องแบ่งปันให้องค์กรสาธารณกุศลต่างๆที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้เด็กๆสามารถตอบแทนสังคมได้ด้วย
ขณะที่ นายศิริศักดิ์ คชพัชรินทร์ รองโฆษกกรรมการสื่อสร้างสรรค์ฯ กล่าวว่า บริษัท SK GLOBAL ENTERTINMENT จะได้สิทธิเพียงผู้เดียวในการใช้สิทธิในการสร้างสื่อสร้างสรรค์ หรือภาพยนต์ ที่อยู่ในถ้ำของ 12 หมูป่า และโคชเอก หลังตกลงกับบริษัทแล้วก็มีหน้าที่ หรือมีข้อผูกพัน ดังนั้น เรื่องราวในถ้ำที่จะออกมาจากปาก หรือตัวน้องๆก็จะทราบดี ว่าไม่ควรให้ข้อมูล แต่หากองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไรจะใช้ข้อมูลก็จะต้องมีการเจรจาเพื่อนำไปใช้ได้
“ทางบริษัท จะได้สิทธิเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในการช่วยเหลือ 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวง ตามในหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ แต่ไม่ได้มาคอยกำหนดการดำเนินชีวิตของน้องๆทั้ง13 คน โดยน้องๆทั้ง 13 คนสามารถใช้ชีวิตตามปกติทั่วไปเหมือนเดิม ยกเว้นเวลาน้องๆไปปรากฏตัว หรือมีใครเชิญไปออกรายการ แล้วมีการซักถามเรื่องราวชีวิตระหว่างที่ติดอยู่ในถ้ำ จึงจะถือว่าละเมิดสิทธิ์ของบริษัท แต่ถ้าไปปรากฏตัว ไปเตะฟุตบอลทซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องราวในถ้ำหลวงก็สามารถทำได้ปกติ ส่วนขั้นตอนต่อไป เมื่อทางบริษัท SK ทำ MOU แล้วก็จะทำสัญญา และนำไปสู่การสร้างภาพยนต์ ซึ่งจะทำเป็นซีรี่มาตรฐานเดียวกับหนังฮอลีวู๊ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนมูลค่าในการลงทุนสร้างครั้งนี้ค่อนข้างสูง โดยจะสร้างเป็นซีรี่แต่เป็นระดับฮอลีวู๊ด และมีผู้ติดตามชมพร้อมกันทั่วโลกจำนวนหลายร้อยล้านคน และให้สิทธิประเทศไทยฉายพร้อมกันในสื่อดิจิตอลทุกช่อง ส่วนรายละเอียดนั้นจะอยู่ในการเจรจาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี