ภรรยาสุดช็อค!!! นั่งสองแถวผ่านหลังห้อง ผงะพบสามีมัดมือ-ผูกคอดับริมระเบียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 8 มี.ค.62 ร.ต.อ.สุวิทย์ ภูดอนนาง พนักงานสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งว่ามีผู้ผูกคอเสียชีวิตภายในชั้น 3 อพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่ง ริมถนนคู่สร้าง-ประชาอุทิศ เยื้องสำนักงานขนส่งสมุทรปราการสาขาพระประแดง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายสำเริง ศรีพระราม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 10 ต.ในคลองบางปลากด เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ แพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุที่ห้องพักบนชั้น 3 ของอพาร์ทเม้นต์ บริเวณริมระเบียงหลังห้อง เจ้าหน้าที่พบร่างนาย ประพจน์ ลุงติ อายุ 25 ปี ภูมิลำเนาอยู่หมู่ 1 ต.บ้านเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เป็นชาวไทยใหญ่ ใช้สายอากาศทีวีสีดำผูกกับราวตากผ้าเสียชีวิตในลักษณะยืนย่อตัว บริเวณข้อมือทั้ง 2 ข้างมียางยืดสีดำ-แดง ที่ใช้สำหรับรัดสิ่งของบนรถจักรยานยนต์มัดอยู่ สภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขาสั้นลายดอกสีดำชมพู บริเวณขอบริมระเบียงมีโทรศัพท์มือถือวางตั้งพบผนังอยู่ในลักษณะคล้ายจะโทร.วีดีโอคอล
บริเวณบนฟูกที่นอนภายในห้องพบสมุดปกอ่อนสีฟ้าภายในพบข้อความของผู้ตายเขียนสั่งลาไว้ ใจความว่า “ถ้าหลังกูตาย ตี๋ส่งกระดูกกูกลับบ้านด้วย บ้านเลขที่ 130 หมู่ที่ 1 ต.บ้านเมืองนะ อ.อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ แล้วบอกพ่อกูด้วยว่ากูขอโทษ ขอให้เขาเก็บกระดูกูไว้กูจะกลับบ้าน บอกเขาว่ากูขอโทษที่ไม่ได้ทำตามสัญญา ฝากบอกปัญญากับน้าน้อยด้วย ว่ากูขอบคุณทุกอย่าง และก็ฝากเขาดูแลน้องกูด้วย ขอโทษทุกคนที่รักกู”
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพลิกอ่านอีกหน้าหนึ่ง ซึ่งผู้ตายเขียนถึงลูกใจความว่า “กัสพ่อรักลูกนะครับ เมื่อลูกโตขึ้นลูกจะเป็นเซียนตกปลา พ่อรักนู๋ครับ คนอื่นเรียกหนู ซูกกัส แต่พ่อเรียกหนูน้องดีกรี เพราะพ่อชอบกินเหล้า” ทางเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน น.ส.เมทินี ทวีนันท์ อายุ 23 ปี ภูมิลำเนาอยู่แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. ภรรยาผู้ตาย ให้การว่า ตนคบหาดูใจกับผู้ตายมาแล้ว 6-7 ปี มีลูกชายเป็นพยานรัก 1 คน วัย 2 ขวบ ซึ่งโดยปกติผู้ตายเป็นช่างรับเหมาต่อเติมบ้านทั่วไป กระทั่งช่วงหลังมานี้ตนได้มีปากเสียงกับผู้ตายบ่อยครั้งในเรื่องส่วนตัวและเรื่องครอบครัว จนกระทั่งตนได้หอบเสื้อผ้าอุ้มลูกไปพักอาศัยกับพี่ชายภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร ในระยะเวลาที่ห่างกันมา 3-4 เดือนตนยังคงแวะเวียนไปมาหาสู่กับผู้ตายอยู่บ่อยครั้ง แต่ยังมีเรื่องทะเลาะกันเรื่อยมา และผู้ตายยังเคยขู่จะฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่ตนห้ามปรามไว้ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ผู้ตายได้พยายามโทรศัพท์หาตนหลายสาย แต่ตนไม่รับสาย กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านตนกำลังนั่งรถสองแถวโดยสารไปทำงานย่านวัดพุทธบูชา โดยรถจะวิ่งผ่านหลังห้องของผู้ตาย ตนได้เงยหน้ามองช่องระเบียงพบผู้ตายยืนอยู่ แต่ด้วยความสงสัยว่าผู้ตายยืนไม่ขยับตัว จึงได้รีบลงรถวิ่งขึ้นไปบนห้อง ซึ่งคิดว่าน่าจะเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้น พบประตูห้องถูกล็อค จึงเคาะประตูเรียกอยู่ครู่ใหญ่ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงใช้กุญแจที่ผู้ตายมอบไว้ให้เปิดเข้าไปดู พบว่า ผู้ตายผูกคอเสียชีวิตแล้ว จึงรีบโทรศัพท์บอกพี่ชายตนพร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานเบื้องต้นว่าผู้ตายมีปากเสียงกับภรรยาบ่อยครั้ง จนเกิดอาการน้อยใจ เขียนจดหมายทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ก่อนใช้ยางรัดสิ่งของบนรถจักรยานยนต์มามัดข้อมือ เพื่อไม่ให้ดิ้นหลุด พร้อมผูกสายโทรทัศน์เป็นบ่วงคล้องคอเพื่อจบปัญหาชีวิตของตนเอง ก่อนที่จะมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช ก่อนเชิญตัวภรรยาและคนใกล้ชิดไปสอบสวนเพิ่มตามเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี