ตำรวจกาฬสินธุ์ตามรวบตัว “โอปอ” สาวถูกอุ้มเรียกค่าไถ่-ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด หลังหายตัวไปนานกว่า 8 เดือน ย่องกลับบ้าน ปล่อยข่าวลวงเผ่นออกนอกประเทศ สุดท้ายไม่รอด
จากกรณี น.ส.ประภาพรรณ ภูอุทา หรือ “โอปอ” อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม คดีค้ายาบ้า 4,000 เม็ด แต่เป็นผู้เสียหายในคดีเรียกค่าไถ่ซึ่งถูกคนร้าย 5 คน กระชากหัวอุ้มขึ้นรถเหตุเกิดหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อเดือน ก.ค.61 แต่ภายหลังที่ น.ส.ประภาพรรณ รู้ว่าตนเองตกเป็นผู้ต้องหาคดีค้ายาบ้าด้วย จึงเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมนำเอกสารหลักฐานอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่เอี่ยวยาเสพติดไปมอบให้กับศูนย์ดำรงธรรมกาฬสินธุ์ แต่หลังจากให้ข้อมูล น.ส.ประภาพรรณ กลับหลบหนีและหายตัวไปนานเกือบ 8 เดือน
ความคืบหน้าล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ (14 มี.ค.62) ที่ห้องประชุมชัยสุนทร กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ (บก.ภ.จว.กาฬสินธุ์) พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) รรท.ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ , พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ , พ.ต.ท.วิเชียร ศรีจันทร์ รองผกก.(สืบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ , พ.ต.ท.ปรัชญา ต้นกันยา สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และชุดสืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว น.ส.ประภาพรรณ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ จ.251/2561 ลง 20 ก.ค.2561 ข้อหาหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา และหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคามที่ จ.164/2561 ลง 21 ส.ค.2561 ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย
โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ นำโดย ร.ต.อ.อมร เดชศรี รองสว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ สามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 69 หมู่ 4 ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ขณะที่ผู้ต้องหากลับมาที่บ้านเมื่อช่วงคืนวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เปิดเผยว่า สำหรับ น.ส.ประภาพรรณ เป็นผู้เสียหายในคดีคนร้ายขับรถปาดหน้าแล้วฉุดขึ้นรถไปเรียกค่าไถ่ ที่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าฯในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 10 ก.ค.61 โดยเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 5 คน จากการสอบสวนพบว่าไม่ใช่การเรียกค่าไถ่ แต่เป็นการทวงหนี้ที่ติดค้างกัน
จากนั้นเมื่อวันที่ 11 ก.ค.61 ตำรวจได้จับกุมตัวนายบรรณวิทย์ หรือกระทิง กนกหงส์ พร้อมของกลางยาบ้า 4 ,000 เม็ด ที่ห้องพักแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.มหาสารคม ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลทราบว่า น.ส.ประภาพรรณ ซึ่งเป็นเพื่อนสาวคนสนิทของนายบรรณวิทย์ เป็นผู้ที่เปิดห้องพักดังกล่าวไว้ และมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดมหาสารคามในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย
กระทั่งเมื่อวันที่ 18 ก.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ได้จับกุมตัว น.ส.ประภาพรรณ หลังจากเดินทางไปขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ โดยอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และมีเจ้าหน้าที่เอี่ยวด้วย แต่ในระหว่างขั้นตอนจะนำตัวส่งไปยังพนักงานสอบสวน สภ.มหาสารคาม น.ส.ประภาพรรณ ได้ฉวยโอกาสหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งชุดออกติดตามหาตัว ทั้งในตัวจังหวัด ต่างจังหวัด และประเทศฝั่งเพื่อนบ้าน แต่ยังไม่พบ น.ส.ประภาพรรณ ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ใด แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังติดตามอย่างต่อเนื่อง กระทั่งผ่านไปประมาณ 8 เดือน ทราบว่า น.ส.ประภาพรรณ ปล่อยข่าวลวงว่าอยู่นอกประเทศ แต่แท้ที่จริงแล้วได้หลบหนีอยู่ในพื้นที่
พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ กล่าวอีกว่า กระทั่งล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 มี.ค.62 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ รับแจ้งจากสายข่าวว่า น.ส.ประภาพรรณ ได้เดินทางกลับมาที่บ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ดักซุ่ม จนมั่นใจว่าเป็น น.ส.ประภาพรรณ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการควบคุมตัวได้ดังกล่าว และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีอยู่ภายในประเทศ ไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศ โดยช่วงที่หลบหนีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รอโอกาสตำรวจเผลอได้เดินแอบหลบหนีไป ส่วนกรณีที่ตกเป็นผู้เสียหายในการถูกลักพาตัวไป ก็ต้องสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ต้องแยกเป็น 2 คดี คือ เรื่องของการลักพาตัว และเรื่องของยาเสพติด เป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระ
ส่วนกรณีที่ น.ส.ประภาพรรณ ไปร้องกับศูนย์ดำรงธรรม และอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ขณะนี้ได้ตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเพียงการกล่าวอ้างเท่านั้น เนื่องจากตนเองตกเป็นผู้ต้องหา โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ และตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีพฤติกรรมหลบหนี และจะได้แจ้งกลับไปที่ สภ.เมืองมหาสารคาม ต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) รรท.ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าคดีเรียกค่าไถ่นั้นขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 5 คน และพยานไปบางส่วน ยังเหลือการสอบปากคำผู้เสียหาย คือ น.ส.ประภาพรรณ เนื่องจากหลบหนีและตำรวจเพิ่งจะติดตามตัวได้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบปากคำและรวบพยานหลักฐานก่อนที่จะสรุปสำนวนส่งให้กับอัยการจังหวัดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี