นายกฯขึ้นเหนือ
ระดมแก้ปัญหาหมอกควัน
เชียงใหม่ยังวิกฤติต่อเนื่อง
อากาศแย่สุดในโลก5วันติด
นายกฯ กำชับทุกภาคส่วนเร่งแก้ปัญหาหมอกควันในภาคเหนือ พร้อมลงพื้นที่ 16 มีนาคม ส่วน จ.เชียงใหม่ ยังเผชิญวิกฤติ PM2.5
ต่อเนื่อง ครองแชมป์คุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก 5 วันติดต่อกัน ขณะที่ภัยแล้งลุกลามหลายพื้นที่
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามและห่วงใยสถานการณ์ปัญหาหมอกควันภาคเหนือที่ยังคงพบว่าหลายค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และสั่งกำชับให้ส่วนราชการทุกส่วน ทั้งทหารและพลเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)จังหวัด เอกชน จัดรณรงค์เพิ่มความชุ่มชื้นและลดค่าฝุ่นละอองในอากาศ รวมถึงการฉีดสเปรย์น้ำบนตึกสูงของภาคเอกชน เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th
พ.อ.หญิงทักษดา กล่าวว่า วันที่ 16 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จะไปตรวจราชการที่ จ.เชียงราย และ จ.แพร่ เพื่อติดตามมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและป่าชุมชน รวมทั้งร่วมหารือการแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่า ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงรายและช่วงบ่ายจะไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.แพร่ ในการเป็นประธานมอบหนังสือแสดงสิทธิโครงการป่าชุมชนให้ผู้แทนชุมชนและมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวมให้ประชาชนและติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ณ สนามกีฬา อบจ.แพร่ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์หมอกควันที่ จ.เชียงใหม่ว่า สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงถูกปกคลุมด้วยหมอกควันหนาทึบอย่างต่อเนื่องติดต่อหลายวัน โดยไม่สามารถมองเห็นดอยสุเทพได้จากระยะไกล และทั่วทุกทิศทางมองเห็นด้วยตาเปล่าเป็นควันที่ขาวขุ่นมัวลอยอยู่ในอากาศได้อย่างชัดเจน โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ยังคงเกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ที่สถานีตรวจวัด ต.ช้างเผือก, ต.ศรีภูมิ และ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วัดค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น.วันนี้ ได้ 148 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.), 135 มคก./ลบ.ม. และ 85 มคก./ลบ.ม. ซึ่งอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงควรเลี่ยงการออกทำกิจกรรมนอกอาคาร หากจำเป็นควรสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน
ข้อมูลของเว็บไซต์ www.airvisual.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์วัดคุณภาพอากาศของทั่วโลก พบว่า จากการเปรียบเทียบดัชนีคุณภาพอากาศ หรือค่า US AQI จากหัวเมืองใหญ่จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก พบว่า ค่ามลพิษในอากาศของ จ.เชียงใหม่ ยังพบว่าวิกฤตหนักที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ติดต่อกันเป็นวันที่ 5 แล้ว โดยผลการตรวจวัดเมื่อเวลา 10.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย วัดได้ 320 US AQI ส่วนอันดับ 2 เป็นของเมือง Dhaka, Bangladesh วัดได้ 244 US AQI และ อันดับ 3 เมือง Delhi, India วัดได้ 224 US AQI
ทางด้าน นายวันชัย จงสุทธนามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลนครเชียงราย นำรถบรรทุกน้ำเข้าทำการฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช เพื่อสร้างความชุ่มชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ ภายหลังค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถตรวจวัดในพื้นที่ ต.เวียง อ.เมือง ค่าพีเอ็ม 2.5 อยู่ที่ 98 มคก./ลบ.ม., และค่าพีเอ็ม 10 อยู่ที่ 122 มคก./ลบ.ม. ส่วนที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ค่าพีเอ็ม 2.5 อยู่ที่ 203 มคก./ลบ.ม. และค่าพีเอ็ม 10 อยุ่ที่ 258 มคก./ลบ.ม. ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
ศูนย์อำนวยการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันไฟป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน รายงานผลการตรวจจุดความร้อนจากดาวเทียม ระบบ เวียร์ ของวันที่ 15 มีนาคม ว่า พบจุดความร้อนจำนวน 104 จุด ได้แก่ อ.แม่สะเรียง 4 จุด อ.แม่ลาน้อย 3 จุด อ.ขุนยวม 11 จุด, อ.เมือง 10จุด, อ.ปางมะผ้า 33 จุด และ อ.ปาย 43 จุดและก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ตรวจพบจุดความร้อน 119 จุด ได้แก่ อ.ปาย 37 จุด, อ.ปางมะผ้า 31 จุด, อ.ขุนยวม 14 จุด, อ.แม่สะเรียง 12 จุด, อ.เมืองแม่ฮ่องสอน 11 จุด, อ.แม่ลาน้อย 10 จุด, อ.สบเมย 4 จุด ซึ่งพบว่าจุดความร้อนที่ตรวจพบมากที่สุด อยู่ในพื้นที่ อ.ปาย ส่งผลให้เกิดหมอกควันจากไฟป่า จำนวนมหาศาล ลอยปกคลุมทั่วจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ล่าสุดวันที่ 15 มีนาคม เวลา 09.00 น. วัดได้ 95 มคก./ลบ.ม. และค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 205
ช่วงสายวันเดียวกัน นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ได้เป็นประธานในการฉีดพ่นน้ำ บนวัดพระธาตุดอยกองมู เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองพิษในอากาศ โดยใช้รถต่อต้านวินาศภัย ของศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง ที่ถูกส่งมาร่วมแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันของ จ.แม่ฮ่องสอน
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ภัยแล้งในช่วงนี้ว่า นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ระบุว่า ได้ขอความร่วมมือไปยังปศุสัตว์จังหวัดทุกจังหวัด เพื่อเฝ้าระวังช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ โค–กระบือ และสัตว์อื่นๆ ในพื้นที่ หากเกิดสภาวะภัยแล้งขาดแคลนน้ำและอาหาร เร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรอย่างเร่งด่วนด้วย เบื้องต้นทางกรมปศุสัตว์ได้ทำการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มีหน้าที่ดูแลแหล่งน้ำ โดยเฉพาะทางกรมชลประทาน และกรมพัฒนาที่ดิน ไว้คอยให้ความช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว
ที่ จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 ได้นำเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เร่งทำการสูบส่งน้ำจากสระวงกลมทำเลเลี้ยงสัตว์ บ้านหนองไผ่ใหญ่ ม.6 ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ไปเติมใส่สระน้ำดิบกลางหมู่บ้านบ้านโกรกขี้หนู ระยะทาง 3 กม. หลังจากประสบปัญหาภัยแล้งสระกลางหมู่บ้านดังกล่าว มีสภาพตื้นเขินเป็นขุ่นโคลนจนไม่สามารถสูบขึ้นไปผลิตประปาบริการชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน ม.3 และ ม. 20 ประชากรกว่า 250 ครัวเรือน มาเป็นเวลานานเกือบ 1 เดือนแล้ว ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนต้องลงทุนเจาะบ่อบาดาล และซื้อน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคกันเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี