สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก) เป็นหน่วยงานหลักในการจัดที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร ซึ่งตลอดระยะเวลา 44 ปีที่ผ่านมา ได้สืบสานเจตนารมณ์ของการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จัดที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกรและพัฒนาที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินพร้อมกับได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตามนโยบายรัฐบาลและนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สังคม พัฒนาคุณภาพชีวิตและรายได้เกษตรกร รวมทั้งจัดฝึกอบรมอาชีพการเกษตรและให้ความรู้แก่เกษตรกรมาโดยตลอด จนปัจจุบันเกษตรกรได้รับมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ไปแล้ว 2.8 ล้านราย รวมพื้นที่ 36 ล้านไร่
ในโอกาสที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก) ก้าวสู่ปีที่ 44 ในวันที่ 6 มีนาคม 2562 ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. เปิดเผยว่า สิ่งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นใน ส.ป.ก. ต่อจากนี้ไปมี 6 ประการด้วยกัน คือ ประการแรก การแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดิน ให้มีความเหมาะสมและทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ขณะนี้ ส.ป.ก. ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาแล้ว 2 คณะ เพื่อทบทวนและยกร่างพ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 ใหม่ทั้งฉบับ รวมถึงระเบียบข้อบังคับอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2562 ประการที่สอง การแต่งตั้ง Area Manager โดยต่อจากนี้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดทุกจังหวัดจะต้องแต่งตั้งผู้ดูแลพื้นที่ ส.ป.ก. ในแต่ละจังหวัดอย่างน้อยจังหวัดละ 1 คน ในการพัฒนาพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ยึดคืนตาม ม.44และจัดสรรตาม คทช. ซึ่งจะเป็นการพลิกโฉม ส.ป.ก. จากนักจัดรูปที่ดินเป็นผู้จัดการพื้นที่ หรือ Area Manager เพื่อบูรณาการจัดการพื้นที่หลังจากที่จัดที่ดินให้เกษตรกรแล้ว ทั้งในเรื่องของน้ำ ดิน ไฟฟ้า ที่อยู่อาศัย เส้นทางคมนาคมสัญจร รวมถึงการนำพาตลาดเข้ามาหาเกษตรกรในพื้นที่ และสำคัญที่สุดคือการสร้างเครือข่ายกับภาครัฐ เอกชน หอการค้า หน่วยงานธุรกิจต่าง ๆ เพื่อเข้ามาฟื้นฟูพื้นที่ ส.ป.ก. ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น
ประการที่ 3 การจำแนกพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปจากการขยายตัวของเขตเมืองและพาณิชยกรรม การขยายตัวของชุมชนในพื้นที่ ส.ป.ก. เอง ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลให้พื้นที่ ส.ป.ก. สุ่มเสี่ยงต่อการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์และส่งผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรกรรมของประเทศ ส.ป.ก.จึงได้เชิญกรมโยธาธิการและผังเมืองและกรมพัฒนาที่ดินเพื่อมาร่วมกันวางแผนและแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์พื้นที่เขตปฺฏิรูปที่ดิน โดยทั้ง 3 หน่วยงานจะทำการศึกษาค้นคว้าหาแบบจำลอง (Model) ที่เหมาะสมสำหรับการแก้ไขปัญหาที่สามารถนำมาขับเคลื่อนได้อย่างเป็นรูปธรรมโดยการซ้อนทับของแผนที่ผังเมืองของกรมโยธาธิการและผังเมือง แผนที่ Agri-Map ของกรมพัฒนาที่ดิน และแผนที่ ส.ป.ก. พร้อมกันนี้ ส.ป.ก.จะได้ขอความร่วมมือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นแจ้งให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการพิจารณาอนุมัติ/อนุญาตการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างบนพื้นที่ ส.ป.ก. ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ส.ป.ก. อย่างเคร่งครัด
ประการที่ 4 ขยายการให้บริการ Mobile Unit ซึ่งหลังจากที่ได้เริ่มให้บริการศูนย์บริการประชาชนเคลื่อนที่หรือ Mobile unit แก่พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ ส.ป.ก. ที่อยู่ห่างไกลและได้รับการตอบรับที่ดี ดังนั้น ส.ป.ก. จะได้จัดบริการศูนย์บริการประชาชนเคลื่อนที่หรือ Mobile unit ให้ครอบคลุมครบทุกพื้นที่ พร้อมทั้งจะเพิ่มบริการอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องเกษตรกรให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และเพิ่มจำนวนรอบหมุนเวียนการให้บริการให้มากขึ้น เพื่อให้ ส.ป.ก. และพี่น้องเกษตรกรมีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นต่อไป
ประการที่ 5 ปรับปรุงและขยายศูนย์บริการประชาชน สำหรับพี่น้องเกษตรกรที่มาติดต่อใช้บริการ ส.ป.ก. ณ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัด และประสบปัญหาสถานที่พักคอยคับแคบและไม่เพียงพอ ส.ป.ก. จึงได้ดำเนินการโครงการก่อสร้าง/ขยาย/ปรับปรุงศูนย์บริการประชาชน ณ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัด ให้มีความกว้างขวางโอ่โถงมากขึ้น มีจำนวนที่นั่งพักคอยเพียงพอ และมีน้ำดื่มสะอาดให้บริการ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรที่มารับบริการมีสถานที่พักคอยที่เพียงพอและมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และประการสุดท้าย คือ การสำรวจรังวัดด้วยเครื่องมือทันสมัย ซึ่ง ส.ป.ก. กำลังจัดซื้อเครื่องหาค่าพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม (GNSS ชนิด Rover) จำนวน 88 ชุด เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีด้านงานสำรวจรังวัดและทำแผนที่ของ ส.ป.ก. ในการจัดที่ดินเกษตรกรรมให้แก่เกษตรกรมีความทันสมัยและเป็นปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการสำรวจรังวัดและช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ/ซ้อนทับกันของแผนที่รูปแปลงที่ดินเกษตรกร นอกจากนี้ ยังเป็นการพัฒนาระบบแผนที่แปลงที่ดินของ ส.ป.ก. ให้เป็นมาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้นและสอดคล้องกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยมาตรฐานระวางแผนที่และแผนที่รูปแปลงที่ดินในที่ดินของรัฐ พ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาแผนที่แปลงที่ดินอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นการเตรียมพร้อมรองรับเส้นแนวเขตที่ดินของรัฐ One Map การจัดทำแผนที่ฐาน Base map มาตราส่วน 1 : 4,000 ของประเทศไทย (ONE DATUM) เพื่อจัดทำฐานข้อมูลการถือครองที่ดินของรัฐในระบบดิจิทัล (Big Data) ที่มีข้อมูลถูกต้องเป็นปัจจุบันทันสมัย สามารถช่วยในการขับเคลื่อนประเทศสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีประเทศไทย “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” และ Model Thailand 4.0
“ต่อจากนี้ไป ส.ป.ก. จะขับเคลื่อนด้วยค่านิยม “ALRO ALERT” ที่จะปลุกให้คน ส.ป.ก. ได้ตื่นตัว ตื่นรู้ ตื่นรุก และมุ่งตอบสนองการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง และรวดเร็ว พร้อมปรับเปลี่ยนบทบาทของตัวเองจากนักจัดที่ดินมาเป็นนักพัฒนาเชิงพื้นที่ (Area Manager) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพื้นที่ ส.ป.ก. และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในเขตปฏิรูปให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา โดยการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ของในหลวงรัชกาลที่ 9 แนวทางเกษตรวิชญาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร การทำเกษตรแบบปลอดภัย (GAP) เกษตรอินทรีย์ เกษตรผสมผสาน วนเกษตร การส่งเสริมการแปรรูป การวางแผนการผลิตและการตลาดมาใช้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยมุ่งหวังว่าการทำงานของ ส.ป.ก. ต่อจากนี้จะเปรียบเสมือนเป็นหน่วย Social Enterprise ซึ่งมีปฏิรูปที่ดินจังหวัดเป็นผู้จัดการพื้นที่ และมีผู้บริหาร ส.ป.ก. ทั้ง 4 ท่าน เป็น Supervisor และมีหน่วยงานส่วนกลางเป็น Backbones ที่จะสนับสนุนการทำงานของ ส.ป.ก. ให้เป็นทีมเดียวกัน และมีทิศทางที่จะขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ “การทำให้เกษตรกรในพื้นที่ ส.ป.ก. อยู่ได้ อยู่ดี และอยู่อย่างยั่งยืน” มีรายได้ที่เพียงพอและมีความสุขในครอบครัว และการทำให้ที่ดิน “ส.ป.ก. เป็นพื้นที่เกษตรกรรมผืนสุดท้ายของประเทศ ที่จะสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับคนไทยตลอดไป”เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี