20 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตำบลท่าสุด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ตลอดทั้งวันยังคงถูกปกคลุมด้วยหมอกควันไฟอย่างหนาแน่น ทำให้นิสิตนักศึกษาส่วนใหญ่ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยมาเรียนหนังสือเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ
และด้วยปัญหาดังกล่าวทำให้สำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จัดเสวนาโต๊ะกลมอย่างเร่งด่วนขึ้นในหัวข้อหมอกควันพิษข้ามแดน ปัญหาของมวลมนุษย์ชาติและปัญหาของอาเซียน ต่อประเด็นความท้าทายและผลกระทบที่ได้รับในมุมมองของชาวเชียงรายและประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน โดยมีการเชิญคณาจารย์ผู้เชี่ยวด้านทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ แพทย์ประจำสำนักแพทย์ศาสตร์ ภาคราชการที่เกี่ยวข้องและนิสิตนักศึกษาเข้าแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน
โดยทาง ผศ.ดร.ชูเกียรติ น้อยฉิม อาจารย์ประจำสำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เปิดเผยว่า แม้ปัจจุบันเชียงรายจะเป็นเชียงโมเดลเพราะไม่มีจุดฮอทสปอร์ตในพื้นที่ แต่ก็ประสบปัญหาหมอกควันเช่นเดียวกันกับจังหวัดใกล้เคียงอย่างเชียงใหม่ ลำปางหรือพะเยา ซึ่งหากใช้โมเดลแบบเดียวกันแก้ปัญหาก็คงไม่ประสบผลสำเร็จ ดังนั้นชาวเชียงรายจึงมาคุยกันว่าจะแก้ปัญหาเฉพาะของเชียงรายได้อย่างไร เพราะสถิติทางการแพทย์บอกแล้วว่าปัญหาหมอกควันพิษก่อให้เกิดผลกระทบในระยะยาว ประชากรอายุสั้นขึ้น เด็กอาจเป็นออทิสติกส์ เป็นมะเร็งมากขึ้น เพราะอารมณ์ของมนุษย์ย่อมจะแปรปวน หนทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันพิษมันจะต้องยั่งยืน
ผศ.ดร.ชูเกียรติ กล่าวด้วยว่า ชาวเชียงรายแม้จะไม่ได้เป็นผู้ก่อก็ยังได้รับผลกระทบ จึงอยากจะเสนอกับทางรัฐบาล ควรที่จะให้แต่ละจังหวัดช่วยหาแนงทางหรือโมเดลการแก้ไขปัยหาเฉพาะจังหวัดด้วยตัวเอง ประเทศไทยในฐานะประธานเอเซียนจึงถือเป็นโอกาสที่ดีอย่างมาก มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เคยเสนอโมเดลไปรัฐบาลในหลายยุคว่าเราควรจะแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน แม้ปัจจุบันจะมีข้อตกลงว่าด้วยการแก้ไขปัญหาหมอกควันพิษข้ามแดน แต่ไปเน้นที่อาเซียนตอนใต้ที่อินโดนีเซีย สิงค์โปร มาเลเซียและประเทศไทย แต่สถิติปรากฎว่าอาเซียนตอนเหนือในแถบเมียนมา ไทยและ สปป.ลาว มีปัญหาอยู่ทุกปี แต่ก็ไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนจึงอยากเสนอไอเดียให้ประเทศไทยนำไปแก้ไขและพัฒนา อย่าวเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ตามแนวความคิดหลักของความเป็นประธานอาเซียน
"ปัญหาหมอกควันประเทศไทยทำประเทศเดียวก็คงไม่ประสบสำเร็จเพราะจะเห็นได้ว่าจุดฮอทสปอร์ต ในอาเซียนตอนบนคือไทย เมียนมา ลาวและเวียดนาม ต่างมีจุดฮอทสปอร์ตเต็มไปหมด โมเดลที่ทางเชียงรายจะนำเสนอต่อว่าจะเป็นประโยชน์ประเทศไทยและกลุ่มอาเซียนแน่นอน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเคยศึกษาและเคยเสนอไปกับรัฐบาลสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกและประเทศกัมพูชา เป็นประธานอาเซียน ว่าประเทศไทยควรเสนอตัวก่อตั้งสำนักงานศูนย์ประสานงานเกี่ยวกับการจัดการปัยหาหมอกควันข้ามแดนขึ้นที่ประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ จ.เชียงราย เพราะมีอาณาเขตติดต่อกับทั้งเมียนมาและสปป.ลาว การที่จะเข้าไปให้ความร่วมมือ ความช่วยเหลือ มันจะง่ายและยิ่งเป็นศูนย์ประสานงานอาเซียนซึ่งจะเป็นองค์การระหว่างประเทศ การที่จะนำคนไทยไปช่วยเหลือโดยตรงนนั้นทำไม่ได้เพราะเป็นเรื่องอำนาจรัฐ แต่หากเข้าไปช่วยเหลือในฐานะเจ้าหน้าที่ของอาเซียน จะทำให้สามารถได้รับเอกสิทธิ์และการคุ้มกัน ซึ่งโมเดลนี้เคยเสนอไปหลายปีแต่ยังไม่ถูกหยิบยกมาใช้ หากถือโอกาสการเป็นประธานอาเซียนผลักดันให้โมเดลนี้เกิดขึ้นเชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาหมอกควันได้อย่างยั่งยืน" ผศ.ดร.ชูเกียรติ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี