นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชม. เพื่อลดโลกร้อน” (60+Earth Hour 2019) ร่วมกับ องค์กร WWF ประเทศไทย มูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษา-เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ประเทศไทย): FEED การไฟฟ้านครหลวง หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนโครงการ ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารไอราวัตพัฒนา กทม.2 เขตดินแดง

กรุงเทพมหานคร ร่วมกับมูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน(ประเทศไทย) FEED และองค์กร WWF ประเทศไทย องค์กร
ภาครัฐ เอกชน และกลุ่มเครือข่าย จัดกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชม. เพื่อลดโลกร้อน”(60+ Earth Hour) พร้อมกับเมืองทั่วโลก มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2551-2561 สามารถลดกระแสไฟฟ้าได้ 18,373 เมกะวัตต์ ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 10,259 ตัน คิดเป็นมูลค่า 64.78 ล้านบาท โดยปีที่ผ่านมาจากการจัดกิจกรรมดังกล่าว สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้ 2,002 เมกะวัตต์ ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1,026 ตัน คิดเป็นมูลค่า 7,863,635 บาทซึ่งในปี 2562 นี้ ตั้งเป้าลดให้ได้มากกว่า 2,002 เมกะวัตต์

ในปี 2562 กำหนดจัดกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชม. เพื่อลดโลกร้อน”(60+ Earth Hour 2019) ภายใต้แนวคิด “ปิดเพื่อโลกเปลี่ยนเพื่ออนาคต” ในวันเสาร์ที่ 30 มีนาคม 2562 เวลา 20.30-21.30 น. ณ บริเวณลานสแควร์ C ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน โดยจะมีการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกับเครือข่าย และปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ในสถานที่สำคัญ 5 แห่ง ที่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร, เสาชิงช้า, สะพานพระราม 8 และวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ช่วงก่อนวันงานจะมีกิจกรรมรณรงค์ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 25-30 มีนาคม 2562 เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนร่วมประหยัดพลังงานปิดไฟดวงที่ไม่ได้ใช้งาน โดย 50 เขต ร่วมกับภาคีเครือข่ายผู้ประกอบการเจ้าของอาคาร สถานที่ รวม 126 แห่ง และอาคารบ้านเรือนในถนน 54 สาย ร่วมปิดไฟเชิงสัญลักษณ์พร้อมกันในวันที่ 30 มีนาคมด้วยเชิญชวนประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรม แสดงพลังลดภาวะโลกร้อนโดยพร้อมใจกัน ปิดไฟที่ไม่จำเป็น 1 ชม. พร้อมกันทั่วโลก และแชร์ภาพ ติดแฮชแท็ก คำว่า #earthHour #connect2earth #ปิดเพื่อโลกเปลี่ยนเพื่ออนาคต #ลดเพราะรักษ์ เพื่อร่วมกันเปลี่ยนโลกในวันนี้