ต้องลุ้นอีก3คดี
อัยการยื่นฟ้องเปรมชัย
ติดสินบน-งาช้าง-ปืน
รุกป่ารอตร.ส่งสำนวน
รองโฆษกอัยการฯระบุ “เปรมชัย” มีอีก 3 คดีในกระบวนการยุติธรรมทั้ง ติดสินบนเจ้าหน้าที่ -ครอบครองงาช้าง-อาวุธปืน ส่วนคดีรุกที่ภูเรือ โทษสูงสุด 15 ปี ตำรวจยังไม่ได้ส่งเรื่องให้อัยการ
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผยว่า หลังศาลจังหวัดทองผาภูมิ มีคำพิพากษาจำคุกนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 16 เดือนโดยไม่รอลงอาญา คดีครอบครองซากไก่ฟ้าหลังเทาสัตว์ป่าคุ้มครอง
และสนับสนุนผู้อื่นล่าเสือดำ ซึ่งอัยการและกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชรอศึกษาคำพิพากษาฉบับเต็มก่อนดำเนินการต่อไปนั้น จากที่ตรวจสอบข้อมูลที่อัยการได้ยื่นฟ้องนายเปรมชัยในคดีอื่นอีก พบว่ายังมีอีก 3 คดีคือ 1.คดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 7 ยื่นฟ้องนายเปรมชัย เป็นจำเลยที่ 1 และนายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 ข้อหาร่วมกันให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำหรือ ไม่กระทำการใดหรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ประกอบมาตรา 83 (เสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน กรณีนายยงค์ พูดลักษณะพยายามจะติดสินบนเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ปล่อยตัวนายเปรมชัยและพวก ซึ่งคดีดังกล่าวศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ได้สืบพยานโจทก์ และจำเลยเสร็จสิ้น โดยกำหนดนัดฟังคำพิพากษา คดีติดสินบนเจ้าพนักงานวันที่ 11 มิถุนายน เวลา 09.00 น.
นายประยุทธกล่าวต่อว่า คดีที่ 2 คือ คดีครอบครอบงาช้างแอฟริกา 2 คู่ (4 กิ่ง) ไว้ในครอบครองฯ โดยพนักงานอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 ยื่นฟ้องนางคณิตดา กรรณสูตร อายุ 64 ปี ภรรยานายเปรมชัย จำเลยที่ 1 นายเปรมชัย จำเลยที่ 2 น.ส.วันดี สมภูมิ แม่บ้าน อายุ 71 ปี จำเลยที่ 3 ฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (งาช้าง) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันนำหรือพาของที่ยังไม่ได้เสียภาษี ของต้องห้ามซ่อนเร้นเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาหรือรับไว้โดยประการใดๆ ที่รู้ว่าเป็นของนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้ามฯ ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ซึ่งคดีนี้ศาลอาญากำหนดนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 8-9 สิงหาคม และสืบพยานจำเลยวันที่ 13-14 สิงหาคมเช่นกัน
นายประยุทธกล่าวอีกว่า เรื่องที่ 3 เกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืนไรเฟิลโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 ยื่นฟ้องนายเปรมชัย ฐานมีอาวุธปืนยาวไรเฟิล 3 กระบอก และปืนแก๊บ 1 กระบอกไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตภายในบ้านพักเลขที่ 12/3 ซ.ศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.) ศาลอาญา กำหนดนัดสืบพยานเริ่มวันที่ 9 กรกฏาคมนี้
สำหรับการตรวจสอบว่า นายเปรมชัยอาจมีบ้านพักและโฉนดกว่า 500 ไร่ทับซ้อนกับพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติภูเรือ จ.เลย ที่บริษัท ซี.พี.เค.อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทในเครือตระกูลนายเปรมชัย เคยครอบครองเนื้อที่ประมาณ 6,200 ไร่ ซึ่งหลังถูกเพิกถอนสิทธิเมื่อปี 2546 หรือไม่นั้น นายประยุทธกล่าวว่า จากการตรวจสอบไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดเลย และอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากรแล้ว ยังไม่พบข้อมูลคดีที่ส่งสำนวนจากพนักงานสอบสวนมาแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีการเข้าบุกรุกปลูกสร้างที่พักอาศัยและสิ่งปลูกสร้างอื่นในพื้นที่ป่า อันเป็นการยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นการทำผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 (1) ถ้าบุกรุกพื้นที่ป่าเนื้อที่เกินกว่า 50ไร่ ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา108 ทวิ และเป็นการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา54 หากพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกมีเนื้อที่เกิน 25 ไร่ ต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 2-15 ปี และปรับตั้งแต่ 1 หมื่น- 1 แสนบาทตามมาตรา72ตรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี