ชนสยอง12ศพ
รถตู้ขนแรงงานต่างด้าว
กลับจากต่อวีซ่าชายแดน
โดน18ล้อเสยตกลงคลอง
โชเฟอร์หนุ่มใหญ่ชาวบุรีรัมย์ นำชาวลาว-เวียดนาม 14 คน กลับจากต่อวีซ่าที่ชายแดนไทย-เมียนมา จ.กาญจนบุรี ระหว่างกลับ กทม. ถูกรถพ่วงพุ่งชนตกคลอง ดับสยอง 12 ศพ
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 23 มีนาคม 2562 ร.ต.อ.สมยศ นิสสัยดี รอง สว.(สอบสวน)สภ.สำรอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อชนกับรถยนต์ตู้ ตกลงไปในคลองส่งน้ำชลประทานทั้ง 2 คันเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนหลายราย เหตุเกิดบริเวณทางแยกเชิงสะพานสระเศรษฐี หมู่ 5 ต.บ้านใหม่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบจากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุชาย เทศัชบุตร ผกก.สภ.สำรอง เจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรี มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ รวมทั้งแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ครั้งนี้นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี รวมทั้งนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา นายอำเภอท่าม่วง ร่วมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย
ที่เกิดเหตุพบรถพ่วงไม่ทราบว่าเป็นพ่วงตัวแม่หรือตัวลูก จมอยู่กลางคลองชลประทาน ส่วนรถยนต์ตู้นั้นมองไม่เห็นเนื่องจากจมอยู่ใต้ท้องน้ำ สำหรับคนขับรถพ่วง 18 ล้อทราบชื่อคือนายจรรยา ภูมิรินทร์ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ สามารถช่วยเหลือนำร่างออกมาได้แล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที และนอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังสามารถช่วยเหลือ ผู้โดยสารที่มากับรถยนต์ตู้ และนำตัวส่งโรงพยาบาลได้อีก จำนวน 3 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 2 ราย
ขณะเดียวกันนายบุญมี กล้วยประโคน อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 4 ต.โคกย่าง อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ คนขับรถยนต์ตู้ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้องที่บริเวณคางเท่านั้น จึงไม่ประสงค์ที่จะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดขึ้นเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำของมูลนิธิฯ พบร่างของผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถตู้จำนวนหลายราย จึงพยายามลำเลียงนำร่างขึ้นมาบนฝั่ง ล่าสุดสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้แล้ว 12 ศพ
ทั้งนี้นายบุญมี กล้วยประโคน คนขับรถยนต์ตู้ เล่าว่าตนขับรถตู้มาจากรุงเทพฯเพื่อนำชาวลาว จำนวน 9 คน และชาวเวียดนาม จำนวน 5 คน รวม 14 คน ไปแสตมป์วีซ่าฝั่งประเทศพม่า บริเวณด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังจากทุกคนแสตมป์วีซ่าแล้วเสร็จ จึงเดินทางกลับ กทม.ด้วยการใช้ถนนสายดังกล่าว ระหว่างทางจึงเกิดอุบัติเหตุขึ้น
ทั้งนี้จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้บริเวณจุดตรวจป้อมตำรวจสระเศรษฐี ที่จับภาพได้อย่างชัดเจน พบว่าก่อนหน้านี้มีรถยนต์สีเขียววิ่งนำหน้ารถยนต์ตู้ที่นายบุญมีขับมา โดยนายบุญมี ขับมาตามถนนเรียบริมคลองส่งน้ำชลประทาน เมื่อมาถึงทาง ประกฎว่ารถพ่วง 18 ล้อที่มีนายจรรยา ภูมิรินทร์ ขับมา พุ่งชนเข้ากลางลำของรถยนต์ตู้จนตกลงไปในคลองทั้ง 2 คัน เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนหลายราย
แต่อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่นายบุญมี ให้การนั้นพบว่าผู้โดยสารที่มากับรถยนต์ตู้ไม่รวมตัวของนายบุญมี มีจำนวนทั้งหมด 14 คน
อีกเหตุการณ์หนึ่งเมื่อเวลา 04.30 น. ตำรวจ สภ.สามกระทาย ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนต้นไม้ บนถนนเพชรเกษม บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 272+300 บ้านสำโหรง ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยกู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี และกู้ภัยตำรวจทางหลวงจุดกุยบุรี
ที่เกิดเหตุอยู่ในฝั่งขาขึ้น กทม. ตรงข้ามวัดสำโหรง พบรถกระบะมิตซูบิชิ สตาร์ด้า สีน้ำเงิน ทะเบียน บม 2607 ประจวบคีรีขันธ์ อยู่ในร่องกลางถนน สภาพด้านหน้าฝั่งคนขับชนอัดติดกับต้นไม้ เครื่องยนต์พังเสียหาย ภายในรถพบร่างคนขับเป็นชาย สวมเสื้อบริษัทรับส่งสินค้าเคอรี่ ถูกอัดติดอยู่กับพวงมาลัยรถ ตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องนำเครื่องตัดถ่างมาช่วยกันตัดงัดประตูรถ เพื่อเอาร่างคนขับออกมา ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 20 นาที จึงสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้
ตรวจสอบหลักฐานภายในรถพบบัตรประชาชนและใบขับขี่ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายรุ่งเรือง แสงเขียว อายุ 35 ปี ชาว ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ ทำงานเป็นพนักงานส่งของบริษัทเคอรี่ เอ็กซ์เพรส สาขาตั้งอยู่ที่บ้านป่าถล่ม ซึ่งอยู่ห่างออกไป 6 กิโลเมตร โดยในเบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนหาสาเหตุอีกครั้งหนึ่งต่อไป
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่มาตรวจที่เกิดเหตุเล่าว่า เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนท้ายกัน 3 คัน ที่บริเวณบ้านป่าถล่ม ตรงข้ามกับสำนักงานสาขาของเคอรี่ ซึ่งนายรุ่งเรืองก็เดินข้ามถนนมาช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจโบกรถอำนวยความสะดวกให้กับรถที่ติดจากอุบัติเหตุ ซึ่งว่าเป็นสิ่งที่นายรุ่งเรืองได้ช่วยเหลือสังคมก่อนที่จะมาจบชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าวครั้งนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี