28 มี.ค.62 ที่หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พร้อมด้วยนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สื่อมวลชนและเครือข่ายด้านการประชาสัมพันธ์ 50 หน่วยงานเข้าร่วมพิธีรับมอบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562
พลเอกฉัตรชัย กล่าวในพิธีรับมอบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาปรุงแบบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ด้วยพระองค์เอง และพระราชทานแบบตราสัญลักษณ์พร้อมความหมาย เพื่อใช้เผยแพร่งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562และขอเชิญชวนร่วมกันประดับตราสัญลักษณ์ พร้อมธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ตามอาคารบ้านเรือน ส่วนราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 4 พฤษภาคม 2563 หลังจากพิธีรับพระราชทานตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีมอบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า ในวันนี้มีการประชุมคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 3 โดยเชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการประชาสัมพันธ์เข้าร่วมประชุมและรับทราบความคืบหน้า และจะสรุปผลการประชุมให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ ในวันที่ 1 เมษายน นี้ ซึ่งคณะอนุกรรมการฝ่ายสารัตถะได้รายงานความคืบหน้ามีการอบรมให้ความรู้ข้อมูลข่าวสารละการใช้ถ้อยคำในงานพระราชพิธีฯ อย่างถูกต้องแก่สื่อมวลชนแล้วกว่า 200 คน เพื่อสร้างความเข้าใจและเตรียมเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง ส่วนเรื่องการถ่ายทอดสดงานพระราชพิธีฯ ซึ่งโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเป็นผู้รับผิดชอบหลักได้ชี้แจงการวางแผน งานพระราชพิธีฯ ตั้งแต่พิธีพลีกรรม ในวันที่ 6 เมษายน 76 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะถ่ายทอดสดเพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ของงาน และในวันที 18 เมษายน จะเป็นพิธีเสกน้ำอภิเษก จากกรุงเทพฯ และ 76 จังหวัด ที่วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร โดยจะมีการวางแผนการปฏิบัติงานร่วมกับสำนักพระราชวัง และในห้วงเวลาสำคัญที่สุดคือ วันที่ 4-6 พฤษภาคม มีการวางแผนจะใช้รถถ่ายทอดสดจำนวน 19 คัน และใช้กล้องโทรทัศน์จำนวน 200 ตัว เพื่อถ่ายทอดงานพระราชพิธีฯ ทุกขั้นตอนให้ประชาชนได้เห็นภาพและรับชมอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ได้นำรับสั่งของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อันเป็นข้อห่วงใย 2 ประการ คือ 1.ผู้บรรยายบางครั้งบรรยายจนเสียบรรยากาศ จนทำให้ผู้ชมการถ่ายทอดพระราชพิธีฯ เสียบรรยากาศ จะต้องระมัดระวัง ซึ่งโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจได้ชี้แจงว่าจะใช้บทบรรยาย ไม่มีการบรรยายสด เพื่อลดความผิดพลาด และจังหวะเวลาที่ควรบรรยายหรือไม่ควร ส่วนเรื่องที่ 2 ในพระราชพิธีฯ ซึ่งหลักๆ อยู่ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งมีพื้นที่จำกัด ต้องไม่มีการใช้อุปกรณ์ในการถ่ายทอดสดมากเกินไป ซึ่งที่ประชุมได้ชี้แจงจะใช้รูปแบบอัตโนมัติ โดยไม่มีคนเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าได้นำแนวทางห่วงใยมาดำเนินการแก้ไข
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ กล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมตนได้เน้นย้ำถึงการสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งทางอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ได้ชี้แจงว่าขณะนี้มีการเผยแพร่งานพระราชพิธีฯ ผ่านช่องทาง https://phralan.in.th และเฟซบุ๊กพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักรราช 2562 ประชาชนสามารถศึกษาเรื่องราวพระราชพิธีฯ หรือกำหนดการพระราชพิธีฯ สำหรับการมอบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีฯ ให้แก่สื่อมวลชนในครั้งนี้ เพื่อใช้เผยแพร่งานพระราชพิธีฯให้ประชาชนรับทราบโดยพร้อมเพรียงกัน
ด้านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงเกี่ยวกับการจัดโต๊ะหมู่บูชาประดิษฐานพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่ามีการจัดโต๊ะหมู่ 2 รูปแบบ คือรูปแบบที่ 1 ตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมเครื่องราชสักการะ รูปแบบที่ 2 ติดตั้งตราสัญลักษณ์ภายในหน่วยงาน อาคาร บ้านเรือน ซึ่งประชาชนสามารถดูแบบตัวอย่างได้ที่ https://phralan.in.th
นอกจากนี้ ในวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม นี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) จะเปิดจำหน่ายเข็มที่ระลึกและเสื้อโปโลสีเหลืองประดับตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ให้ประชาชนทั่วไปเป็นปฐมฤกษ์รอบเดียว จำนวน 20,000 เข็ม ราคาเข็มละ 300 บาท ได้คนละ 2 เข็ม และเปิดจำหน่ายเสื้อโปโลสีเหลือง ประดับตราสัญลักษณ์ฯ จำนวน 20,000 ตัว ราคาตัวละ 290 บาท ได้คนละ 2 ตัว โดยจะเปิดรับบัตรคิวตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป ณ กรมประชาสัมพันธ์ ถนนพระราม 6 หากประชาชนไม่สะดวกมาซื้อในวันดังกล่าว สั่งจองเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ฯ ผ่านที่ทำการไปรษณีย์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสั่งจองผ่านระบบร้านค้าออนไลน์ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เว็บไซต์ www.thailandpostmart.com ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไป โดยไม่จำกัดจำนวน
นายสมพาศ กล่าวถึงการประดับเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ว่า หากเป็นชุดเครื่องแบบสีกากี เครื่องแบบข้าราชการทหาร และข้าราชการพลเรือน ให้ประดับเข็มด้านขวาบนสุด ส่วนผู้ที่สวมใส่ชุดสูทสากล ชุดไทยพระราชทาน หรือผ้าไทยให้ประดับเข็มที่ระลึกบริเวณด้านบนซ้ายสุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี