ศาลจังหวัดปัตตานี พิพากษายกฟ้องโจทก์ คดีบิดามารดาผู้ตาย 4 ครอบครัว ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีเจ้าหน้าที่ยิงประชาชนเสียชีวิต 4 ราย เมื่อปี 2558 ในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี
30 มี.ค.62 มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้เผยแพร่ใบแจ้งข่าว คดีที่บิดามารดาของผู้ตายได้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 เรียกค่าเสียหายจากกองทัพบก จำเลยที่ 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำเลยที่ 2 และสำนักนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 3 ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.397/2560 จากกรณีเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจยิงประชาชนเสียชีวิต 4 คน เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2558 ในพื้นที่บ้านโต๊ะชูด ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ซึ่งสืบพยานโจทก์ และพยานจำเลยเสร็จสิ้นแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดปัตตานี นัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลได้วินิจฉัยว่า เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ ใช้อาวุธปืนยิงประชาชนเสียชีวิต 4 คน ในพื้นที่บ้านโต๊ะชูด ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี นั้น ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จำเลยทั้ง 3 ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์
ภายหลังจากฟังคำพิพากษาดังกล่าวแล้ว โจทก์ทั้ง 8 ซึ่งเป็นมารดา และบิดาของผู้ตายทั้ง 4 ครอบครัว กล่าวว่า จะดำเนินการยื่นอุทธรณ์คดีต่อไป โดยโจทก์ทั้ง 8 ไม่เห็นพ้องด้วยกับคำวินิจฉัย และคำพิพากษาศาลชั้นต้นดังกล่าว เพราะในวันเกิดเหตุมีชาวบ้านเป็นประจักษ์พยานจำนวนหลายคน ที่ได้เบิกความแล้วว่าผู้ตายทั้ง 4 คน ไม่มีอาวุธใด ๆ แต่เจ้าหน้าที่ทั้งทหาร และตำรวจ ต่างมีอาวุธวิ่งตามไป แล้วต่อมาก็ปรากฏว่าทั้ง 4 คนถูกยิงเสียชีวิต
อีกทั้งในการฟ้องร้องดำเนินคดีดังกล่าว ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อให้ได้ค่าสินไหมทดแทนเท่านั้น แต่โจทก์ซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดายังคาดหวังว่า การดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม เป็นช่องทางสุดท้ายในการตรวจสอบการใช้กฎหมายพิเศษของเจ้าหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ถูกครหาโดยตลอดมาว่าขาดความโปร่งใส เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานในการปรับปรุงแก้ไขการทำงานของเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มิให้กระทำละเมิดต่อร่างกาย และชีวิตประชาชนดังเช่นเหตุการณ์คดีนี้
และขอเรียกร้องให้รัฐมีแนวทางในการควบคุม ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งใช้กฎหมายพิเศษ อันได้แก่ กฎอัยการศึก และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อย่างเข้มงวด และมีประสิทธิภาพกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนในพื้นที่ให้เกิดผลอย่างจริงจังต่อไป สื่อมวลชนหรือท่านที่สนใจ สามารถติดตามเรื่องราวของคดีได้ที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี